รมว.พาณิชณ์ ดึงค่ายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการเข้าบัญชีควบคุม พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการดู แก้ปัญหาร้องเรียนโรงพยาบาลเอกชน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์(พณ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลเอกชน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และบริษัทประกันภัย เพื่อหาแนวทางกำกับดูแลค่ารักษาพยาบาล ว่า ตามที่มีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน พณ.จึงได้เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือแนวทางร่วมกัน เบื้องต้นได้ข้อสรุปถึงมาตรการระยะสั้น จะนำบริการทางการแพทย์เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายในการกำหนดราคา เพดานส่วนต่างราคายากับต้นทุนว่าควรบวกเพิ่มขึ้นไม่เกินกี่เท่าของต้นทุน รวมถึงค่ารักษาในบริการฉุกเฉินจะต้องผลักดันให้โรงพยาบาลเอกชน คิดค่ารักษาในอัตราที่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ที่ประชุมก็จะนำแนวทางที่ได้ให้ไว้ไปหาข้อสรุปร่วมกัน และนำกลับมาเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ช่วงต้นเดือน ม.ค. ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้นที่จะเร่งดำเนินการ ส่วนมาตรการระยะยาวจะมีการหารือในแนวทางของการดูแลค่าบริการทางวิชาชีพต่อไป
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันที่จะเสนอให้นำรายการยาและเวชภัณฑ์ และค่าบริการ เช่น ค่าห้องพักฟื้น ค่าอาหาร ค่าเอกซเรย์ เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม โดยจะนำเสนอที่ประชุม กกร.ที่มี รมว.พาณิชย์ เป็นประธานในวันที่ 9 ม.ค. 2562 นี้ ส่วนมาตรการที่จะนำมาใช้กับยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงค่าบริการนั้นจะเป็นการกำหนดราคาเพดานส่วนต่างของกำไรที่จะบวกเพิ่มจากต้นทุนยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงค่าบริการว่าได้กี่เท่า ไม่ให้เป็นภาระกับผู้บริโภคจนเกินไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ข้อสรุปที่จะเข้าไปดูแลค่ารักษาบริการฉุกเฉิน แม้ว่าผู้ป่วยจะได้รับสิทธิพิเศษภายใน 72 ชม. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน แต่หลังจากผ่าน 72 ชม. หรือหลังจาก 3 วัน ทางโรงพยาบาลจะมีการคิดค่าบริการ ดังนั้น จึงต้องมีการกำหนดอัตราการคิดค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสมว่าจะดูแลอย่างไรไม่ให้เป็นภาระที่เพิ่มขึ้น
ทั้งสี้ ในการประชุม กกร.จะเสนอให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลเอกชน บริษัทประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ ขึ้นมาพิจารณาแนวทางในการดูแลทั้งค่ายาและเวชภัณฑ์ และค่าบริการ รวมถึงบริการฉุกเฉินในระยะยาวด้วย