BKK NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

05 พฤษภาคม 2564 : 14:29 น.

กทม.ร่วมหารือกับคณะแพทย์หาข้อยุติการใช้เห็นตรงกันจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในหลุ่มสีเขียวพบอาการเพียงเล็กน้อยเพื่อหยุดเชื้อไม่ให้ลุกลาม

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย คณะแพทย์จากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยฯ พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ฯลฯ ร่วมประชุม

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ร่วมกันหารือแนวทางการใช้ยาเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และเห็นร่วมกันว่า การให้ยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยเร็วจะมีผลดีต่อผู้ป่วยมากกว่าการให้ยาช้า รวมทั้งเห็นว่าแนวทางปฏิบัติเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นแนวทางหลักที่ต้องถือปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครจะกำหนดมาตรการเสริมเพิ่มเติม อาทิ การเร่งตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุกอย่างเข้มข้น จากนั้นจะคัดกรองผู้ป่วยตามระดับอาการป่วยแบ่งเป็นสีเขียว เหลือง และแดง และนำส่งต่อระบบการรักษาพยาบาล

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ป่วยที่อยู่ระดับสีเขียว คือไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย รวมทั้งไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงของโรคจะได้รับการรักษา และติดตามอาการตามที่กทม.กำหนด คือการให้ยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงของโรค โดยเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวบางส่วนเท่านั้น ที่จะได้รับการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ คือต้องอยู่ในเกณฑ์ตามการประเมินของแพทย์ที่กรุงเทพมหานคร อาทิ เป็นผู้ป่วยที่มีปริมาณไวรัสในร่างกายมากกว่าผู้อื่นและเสี่ยงต่อการลุกลามของโรค ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้หากได้รับยาตั้งแต่แรกได้และรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5-10 วัน จะช่วยรักษาไม่ให้กลายเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลืองหรือสีแดงในอนาคตได้ อย่างไรก็ดีสิ่งสำคัญที่สุดคือกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวนี้ต้องให้ความยินยอมในการรักษาด้วย

นอกจากนั้น กรุงเทพมหานครจะจัดให้มีระบบการจัดเก็บข้อมูลจากการรักษา รวมทั้งมีมาตรการป้องกันผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการรักษาที่เพื่อปกป้องผู้ที่เข้าร่วมการรักษา และต้องมีการประเมินผลว่า การดำเนินตามนี้จะมีผลดีต่อการรักษาด้วยยาอย่างไร หรือจะมีผลทำให้เกิดเชื้อดื้อยาในอนาคตหรือไม่ ซึ่งการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ครั้งนี้จะเป็นไปภายใต้การควบคุมของแพทย์ มีการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล มีระบบการติดตามผลและประเมินซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะร่วมให้คำแนะนำในการศึกษา ติดตามและประเมินผลครั้งนี้ด้วย และหากพบว่าการรักษาตามที่กรุงเทพมหานครกำหนดครั้งนี้เกิดประโยชน์อาจนำไปเพิ่มเติมในคำแนะนำในการดูแลรักษาระดับประเทศต่อไปในอนาคตได้

สำหรับ ในปัจจุบันนี้กรุงเทพมหานครมีผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ 1,478 ราย ในระดับสีเขียว คือ อาการเพียงเล็กน้อยกว่า 1,241 ราย ระดับสีเหลือง 199 ราย และระดับสีแดง 38 ราย ที่ยังไม่ได้รับยา ซึ่งจะได้รับยาต่อเมื่อเลื่อนระดับอาการเป็นสีเหลืองและแดง คือมีปอดอักเสบและอาการรุนแรง

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ