บิ๊กโจ๊ก แถลงจับเจ้าของร้านชุดวิวาห์เบี้ยวลูกค้ากว่า 300 ราย สารภาพ ชุด-พนักงานไม่เพียงพอ บริหารจัดการผิดพลาด ยินดีคืนเงินผู้เสียหาย

วันที่ 15 พ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) แถลงการจับกุมนายปรรณวิสิฐ จงรักสานติกูล อายุ 36 ปี เจ้าของร้านเวดดิ้ง Panvisit และนายนุกูล มนูเลิศ อายุ 36 ปี ผู้จัดการร้าน ผู้ต้องหาตามหาหมายศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยจับกุมนายปรรณวิสิฐได้ที่ ซ.สวนผัก 19 เขตตลิ่งชัน ส่วนนายนุกูล จับได้ที่ ต.หนองสังข์ อ.แก่งคร้อ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ก่อนนำตัวมาแถลงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า มีกลุ่มผู้เสียหายเป็นคู่รักกำลังจะแต่งงานและซื้อแพ็กเกจแต่งงานกับทางร้าน Panvisit ซึ่งจดทะเบียนในนามบริษัท สยาม ปิติ จำกัด ต่อมาทราบว่าบริษัทดังกล่าวได้ยกเลิกการจดทะเบียนเป็นบริษัทไปแล้ว จึงเชื่อว่าเป็นการหลอกลวง โดยผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนทั้งการผิดนัดส่งชุดแต่งงาน บ่ายเบี่ยงเลื่อนนัดพูดคุยเกี่ยวกับพิธีการ ผิดนัดถ่ายพรีเวดดิ้ง จึงรวมกลุ่มกว่า 300 ราย แจ้งความกับตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีร้านในเครือทั้งหมด 4 ร้าน คือ ร้าน panvisit , ร้านเช่าชุดในตำนาน ณ นิรันดร์, ร้านเลอ ปิติ และร้าน anastasia รวมมูลค่าความเสียหาย 7,845,610 บาท

จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีปัญหาการบริหารงานภายในบริษัท โดยชุดและพนักงานไม่เพียงพอ แต่กลับรับลูกค้าเกินจำนวนของที่มี ยินดีจะชดใช้เงินคืนให้กับผู้เสียหายทั้งหมด ทั้งนี้ ต้องมีการเจรจาคืนเงินต่อหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อไม่ให้เกิดวุ่นวาย โดยผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และไม่เคยมีประวัติฉ้อโกงมาก่อน หลังจากนี้จะต้องไล่ตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดว่าเงินที่ได้มานำไปทำอะไรบ้าง

ด้านนายวุฒิชัย ประเสิรฐเกื้อกูล หนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งจะจัดงานแต่งงานในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ กล่าวว่า หากมีการเจรจาที่จะชดใช้ก็ยินดี แต่ในส่วนของคดีอาญาก็ให้ดำเนินไป ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีการประสานจากเจ้าของร้านเจรจาเลย ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่รวมกลุ่มมีการพูดคุยกัน ว่า ต้องการได้เงินค่าเสียหายคืนภายใน 7 วัน เพราะทุกคนเดือดร้อนต้องไปเช่าชุด และจ่ายเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในงานแต่งตามกำหนดเดิม