ตอนนี้กำลังเกิดเรื่องโกลาหลในหมู่คนรักโบราณสถานและนักอนุรักษ์ เพราะมีกลุ่มคนใจบุญจำนวนหนึ่งไปลงมือทาสีทองตามโบราณสถานหลายแห่ง
จนทองอร่ามไปหมด ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องดีในสายตาคนทาสีและคนขายสี แต่ในทางโบราณคดี ถือเป็นหายนะใหญ่หลวง ผิดทั้งกฎหมาย ผิดทั้งกาลเทศะ และผิดทั้งรสนิยม เพราะคนโบราณเขาไม่ทาสีทองพร่ำเพรื่อ
ตอนนี้กรมศิลปากรบางหน่วยประกาศรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดขบวนการนี้แล้ว แน่นอนว่า พวกเขาไม่ใช่อาชญากร ไม่ได้ฆ่าคนตาย ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่ในด้านการทำนุบำรุงรากเหง้าของชาติแล้ว พวกทำผิดใหญ่หลวง การเอาสีทองหนาๆ ไปทาทับเท่ากับทำลายลวดลายและวัสดุโบราณจนวินาศ จะแก้กลับคืนมาแทบทำไม่ได้ เท่ากับเราสูญเสียสมบัติของชาติไป เพราะความอยากเอาบุญ แต่ไม่ทันคิดหน้าคิดหลัง
ในต่างประเทศมีกรณีนี้เหมือนกัน คือที่สเปน มักมีข่าวชาวบ้านไปทาสีรูปปั้นโบราณ หรือวาดซ่อมภาพเขียนเก่าตามอำเภอใจ ซึ่งผลออกมามันดูน่าตลกขบขันในสายตาคนทั่วไป แต่นักโบราณคดีเห็นแล้วลมแทบจับ เพราะของโบราณเสียหายไปแล้ว
แต่ที่สเปนเป็นกรณีรายบุคคล ในเมืองไทยผมเห็นทำเป็นกลุ่ม และภาคธุรกิจอาจเกี่ยวข้องด้วย เพราะผลประโยชน์จากการขายสี โปรดหยุดเสียเถิดครับ เพราะท่านกำลังทำลายสมบัติของชาติโดยไม่รู้ตัว มันเป็นบุญที่พ่วงมาด้วยบาปของการทำให้คนรุ่นหลังไม่เหลือโบราณวัตถุไว้ดูเพื่อรู้จักรากเหง้าตัวเอง
กรกิจ ดิษฐาน