.
เมื่อวานนี้ ผู้ว่าฯ อัศวิน อารมณ์เดือดปุด ๆ หลังถูกนักข่าวถามกรณีมีรถจยย.วิ่งบนทางเท้าแล้วชนนักเรียนจนบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดปากซอยลาดพร้าว 69 เขตวังทองหลาง
“คุณต้องไปแก้พฤติกรรม ผมไม่อยากจะพูดไปถึงขั้นแก้สันดาน ผมไม่ได้พูดหยาบคายนะ สันดอนมันขุดได้ เอาจอบขุดก็ออก มนุษย์ต้องขัดเกลาด้วยจริยธรรมของตน พวกที่ชอบขับขี่บนทางเท้า ลองคิดดูละกัน ถ้าลูกหลานท่านโดยชนบ้างจะเป็นยังไง มันขุดยากกว่าสันดอน”
เป็นคำพูดที่ค่อยข้างจะฉุนเฉียว นานๆจะเห็นผู้ว่าฯตะบะแตกสักครั้ง ผมเข้าใจท่านนะครับ ที่ต้องเดือดดาล เพราะท่านเป็นผู้บริหารสูงสุดของกทม. และออกนโยบายแก้ปัญหานี้มากับมือ
หวังให้คนที่เคยยึดทางเท้าไปขายของ ยึดไปจอดรถ และ ยึดไปขับขี่จยย.ได้คืนทางเท้ากลับมา ที่ผ่านมามีการกวดขันจับกุมมาโดยตลอดทั้ง 50 เขต
ทำโครงการ 3 ประสาน ให้ทหาร ตำรวจ และ กทม. ร่วมมือกันกวดขันให้ผู้คนปฎิบัติตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยบ้านเมือง พ.ศ.2535
กทม.ได้ตั้งโต๊ะจับปรับกว่า 230 จุด บนถนนสายหลักสายรองอย่างจริงจังช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จับผู้ฝ่าฝืนได้กว่า 8 พันราย
ตักเตือนไป 3 พันกว่าราย และ ปรับจริงไป 5 พันราย กทม.ได้ค่าปรับไปแล้วประมาณ 3 ล้านบาท ว่ากันตามจริงแล้ว ก็ลดพฤติกรรมคนมักง่ายไปได้มากพอสมควร
แต่พอเกิดเหตุจยย.ชนนักเรียนขึ้นมาเท่านั้นแหละ ก็เลยมีคนตั้งคำถามกันเซ็งแซ่ว่า สิ่งที่กทม.ทำไปทำไมยังมีผู้ฝ่าฝืน เป็นเพราะเจ้าหน้าที่หย่อนยาน หรือสันดานคนมักง่ายยังไม่เปลี่ยนนิสัย
ผมไม่อยากขออะไรมาก ขอให้เคารพสิทธิในการใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกัน อย่าเอาความมักง่ายมาทำให้คนอื่นเดือดร้อนเลยครับ