คนไทยรู้จัก วันลอยกระทง สืบสานเป็นประเพณีมานานวัน

ดิฉันเองพอรู้ความก็รู้จักแล้วเช่นกัน ยิ่งด้วยเป็นคนบ้านริมคลอง ยามค่ำคืนวันลอยกระทง นอกจากก็ร่วมกันจัดทำกระทงกันในครอบครัว ยังชอบมานั่งที่ศาลาท่าน้ำ เพราะพอตกค่ำ ก็เริ่มจะเห็นแสงเทียนวิบวับลอยมาตามสายน้ำ เป็นบรรยากาศที่ต่างไปจากคืนอื่นๆ กระทงไม่ได้มีจำนวนมากมายอะไร นานๆ ก็ลอยมาที

รุ่งเช้าแต่ละบ้านก็ช่วยกัน กระทงลอยผ่านบ้านใครก็ช้อนขึ้นมาโปะๆ ไว้ตามใต้ต้นไม้ เพราะสิ่งที่ใช้ทำกระทงก็เป็นต้นกล้วย ใบตอง ดอกไม้ เดี๋ยวผ่านไปก็สลายเป็นปุ๋ย

การลอยกระทงในปัจจุบันนอกจากสืบสานความเป็นมาในอดีต ยังถูกหยิบยกกันขึ้นเป็นปัญหา ปริมาณขยะที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องลอยกระทงนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องเดียวที่ก่อให้เกิดปัญหาขยะ เพียงแต่มาเพิ่มให้มากขึ้นจนเกิดเป็นปัญหาร่วม อย่างหนึ่งนั่นก็เพราะคนมากขึ้น วิถีตามลำคลองก็เปลี่ยนกันไป ก็เลยมุ่งไปลอยกันที่แม่น้ำสายหลัก ปริมาณเลยไปสะสม คนช่วยเก็บแบบคนละไม้ละมือก็พลอยหายไป ต้องรอการทำงานของเจ้าหน้าที่เท่านั้น

ลองดูสถิติจำนวนกระทงของกรุงเทพมหานคร ย้อนหลัง 3 ปี ในปี 2558 มีจำนวนกระทงรวมทั้งสิ้น 825,614 ใบ ปี 2559 รวมทั้งสิ้น 661,935 ใบ และปี 2560 รวมทั้งสิ้น 811,945 ใบ

ปีนี้วันลอยกระทง คืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง ก็ตรงกับคืนวันที่ 22 พ.ย.นี้ ที่กล่าวมาไม่ได้จะแสดงเจตจำนงให้ยกเลิกการลอยกระทงหรอกค่ะ เพราะดิฉันยังชื่นชอบในบรรยากาศอยู่ แต่อาจเป็นหนึ่งครอบครัวกระทงหนึ่งใบ ส่วนหนุ่มสาวนั้นไม่ต้องไปเสี่ยงทายลอยกระทงอะไรก็ได้ กระทงจะลอยคู่ จะคว่ำจะหงาย ไม่ใช่คำทำนายว่ารักจะยืนยงหรอก สองคนลอยกันไปใบเดียวนั่นล่ะ ก็น่าจะช่วยๆ กันได้