รู้ตัวอีกทีก็พบว่าบนใบหน้ามีรอยฝ้าอยู่เต็มไปหมดซะแล้ว
ลองหาข้อมูลการรักษาฝ้าให้ดีขึ้น ก็มีข้อมูลมากมายจนไม่รู้จะเลือกวิธีไหนกันแน่ แถมยังมีข้อมูลเยอะแยะไปหมด ในบทความนี้จะรวบรวมข้อมูลจากทุกที่มาไว้ให้ พร้อมกับสรุปให้เข้าใจง่าย รวมถึงอัปเดตการรักษาฝ้าที่ได้ผลจริงให้รู้กันชัดเจนไปเลย
1.รักษาฝ้าด้วยการทายาหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง
เป็นวิธีที่ใช้รักษาฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมถึงเรื่องความหลากหลายของราคา แต่ต้องบอกก่อนว่าสภาพผิวของแต่ละคนมีการตอบสนองต่อยาและไวท์เทนนิ่งแต่ละชนิดแตกต่างกัน ครีมบางชนิดเพื่อนอาจจะใช้แล้วดี แต่เราใช้แล้วอาจจะแพ้ก็ได้ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาและครีมรักษาฝ้าอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะปลอดภัย ไม่เกิดอาการแพ้ในภายหลังนั่นเอง โดยยาและครีมไวท์เทนนิ่งที่มักจะช่วยเรื่องฝ้าได้ดีแบะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งทั่วไป
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่มีส่วนผสมของวิตามินซี สารสกัดจากชะเอมเทศ อาร์บูติน และอีกมากมาย สามารถช่วยลบเลือนริ้วรอยของฝ้าได้จริง ไม่ค่อยระคายเคืองผิว มีความปลอดภัยสูง และยังช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
- สารไวท์เทนนิ่งลูมินัส 630 (LUMINOUS630)
ต้องบอกว่านี่คือสารไวท์เทนนิ่งตัวใหม่ล่าสุดช่วยรักษาฝ้าแดดและจุดด่างดำจากแดดที่สะสมมากว่า 10 ปีได้ภายในเวลา 4 สัปดาห์ และ 8 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นฝ้าแดดที่ฝังลึกสะสมมานาน ก็สามารถจางลงได้จริง ซึ่งปัจจุบันมีสารนี้ในครีมนีเวีย ลูมินัส 630 สปอตเคลียร์ (NIVEA LUMINOUS630 SPOT CLEAR) ที่หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
2.ลอกผิวด้วยสารเคมี หรือลอกผิวด้วยเกร็ดอัญมณี
เป็นวิธีที่ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามได้ไม่นานมากนัก ต้องอาศัยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาด้วยวิธีนี้ เนื่องจากอาจะก่อให้เกิดแผลเป็นถาวรโดยไม่สามารถรักษาได้ หากทำการลอกชั้นผิวลึกเกินไป และยังต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในเรื่องของการหลีกเลี่ยงแสงแดดและการทาครีมกันแดดอย่างเคร่งครัดอีกด้วย
- การลอกผิวด้วยสารเคมี
เป็นการใช้สารตัวเดียวกันที่ผสมอยู่ในครีมรักษาผ้า เพียงแต่ใช้ในปริมาณที่มากกว่าและเข้มข้นกว่า เพื่อลอกผิวส่วนด้านนอกออก ช่วยทำให้รอยฝ้าดูจางลงได้ เป็นอีกวิธีรักษาฝ้าที่ต้องอยู่ใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
- การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี
ใช้เกร็ดอัญมณีเพื่อขัดผิว และลอกผิวชั้นหนังกำพร้าออก ส่วนมากวิธีนี้จะถูกใช้กับการรักษาฝ้าแบบตื้น ไม่ค่อยได้รับความนิยมในเมืองร้อน เพราะก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวได้สูง และต้องระมัดระวังการสัมผัสกับแสงแดดมากเป็นพิเศษ
3.การรักษาด้วยเลเซอร์
ปัจจุบันมีการนำเลเซอร์มาช่วยใช้ในการรักษาหลาย ๆ อย่าง รวมถึงเป็นหนึ่งในวิธีรักษาฝ้าที่เป็นที่นิยมสูงมาก เนื่องจากสามารถรักษาได้ตรงจุด แม่นยำ ซึ่งเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ นั่นคือการทำลายเม็ดสีที่เข้มกว่าจุดอื่น ๆ ให้สีจางลง และสม่ำเสมอนั่นเอง และยังมีข้อที่ต้องระวังเป็นอย่างมากก็คือเรื่องการเจอแสงหลังจากทำเลเซอร์
มีทั้งวิธีการรักษาเบื้องต้นง่าย ๆ ไปจนถึงวิธีรักษาฝ้าแบบจัดเต็มกันไปเลย แถมยังได้อัปเดตกับสารตัวใหม่ล่าสุดที่ถูกค้นพบอย่างสารไวท์เทนนิ่งลูมินัส630 (LUMINOUS630) จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่มีส่วนผสมของลูมินัส630 อย่างเดียว หรือจะใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ ก็ยิ่งทำให้ผิวสวยใสไร้ปัญหาฝ้ามากวนใจอย่างแน่นอน!