LIFESTYLE

16 กันยายน 2563 : 11:31 น.

สิ่งหนึ่งที่คอยกวนใจคนใช้รถอยู่ทุกๆ ปีก็คงจะหนีไม่พ้นกับการต่อประกันรถยนต์ที่มีตัวแทนประกันภัยโทรมาติดต่อมาเพื่อเสนอประกันรถยนต์ชั้นต่างๆ ให้เลือกกัน ออกจะวุ่นวายแถมยังน่าเบื่ออีกด้วย

แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าการที่เราทำประกันรถยนต์เอาไว้นั้นจะช่วยคุ้มครองและดูแลในเรื่องของค่าใช้จ่ายของเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องราวที่ไม่คาดฝัน คำถามวันนี้มีอยู่ว่า เราจะเลือกประกันรถยนต์แบบไหนดีระหว่างประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันรถยนต์ 2+ ที่มีราคาและความแตกต่างกัน บางคนอาจจะยังเลือกไม่ได้ วันนี้เราก็มีข้อเปรียบเทียบมาให้ทุกคนดูกัน ถ้าพร้อมแล้วรีบตามมาเลย

ประกันรถยนต์ชั้น 1

• ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะเป็นประกันรถยนต์ที่เหมาะกับอายุรถไม่เกิน 7 ปี

• สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นเหมาะสำหรับผู้ขับขี่รถที่เพิ่งเริ่มขับ ยังขับไม่แข็ง หรือว่าต้องการความคุ้มครองสูง

• ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะมีราคาค่าเบี้ยประกันที่สูง ไม่เหมือนกับประกันรถยนต์ 2+ ที่มีราคาน้อยกว่าประกันชั้น 1

• ค่าเสียหายส่วนแรกที่ไม่ต้องเสีย จะชนอะไรก็ตาม จะมีหรือไม่มีคู่กรณีก็สามารถเคลมได้เลยโดยที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเอง 

• คุ้มครองการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารภายในรถ โดยที่ไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลด้วยตัวเอง 

• คุ้มครองต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ในกรณีที่อีกฝ่ายไม่ใช่รถยนต์กระถางต้นไม้ เสา ประตูรั้ว 

• คุ้มครองกรณีที่รถยนต์สูญหายหรือไฟไหม้

• ให้การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่เกิดจากอุบัติเหตุขณะอยู่ในรถหรือกำลังขับขี่ 

• ให้การประกันภัยค่ารักษาพยาบาลนับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ

• ประกันตัวผู้ขับขี่ที่ทางบริษัทประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้ขับขี่ถูกควบคุมตัวในคดีอาญา

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

• ประกันรถยนต์ 2+ จะเป็นประกันรถยนต์ที่เหมาะกับอายุรถตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป 

• ประกันรถยนต์ 2+ จะเหมาะกับผู้ขับขี่รถที่มีประสบการณ์ สามารถขับขี่ได้อย่างเชี่ยวชาญ 

• หมาะสำหรับต้องการความคุ้มครองเทียบเท่ากับประกันชั้น 1 แต่ได้เบี้ยประกันของประกันรถยนต์ 2+ ในราคาที่ถูกกว่า

• คุ้มครองการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารภายในรถ

• สำหรับประกันรถยนต์ 2+ ที่มีราคาถูกกว่าประกันชั้น 1 นั้นก็จะให้ความคุ้มครองและดูแลความเสียหายในการซ่อมรถยนต์ของคู่กรณีด้วย

• ให้การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่เกิดจากอุบัติเหตุขณะอยู่ในรถหรือกำลังขับขี่ 

• ให้การประกันภัยค่ารักษาพยาบาลนับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ

• ประกันตัวผู้ขับขี่ที่ทางบริษัทประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้ขับขี่ถูกควบคุมตัวในคดีอาญา

• เพราะว่าประกันรถยนต์ 2+ มีราคาที่ถูกกว่าก็จะทำให้ไม่ครอบคลุมค่าซ่อมแซมในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี เช่นการขับชนกระถาง เสา รั้ว

ข่าวที่น่าสนใจ