ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่า มีเกษตรชาวไร่ยาสูบในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือตามโครงการ
ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) จำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 159.69 ล้านบาทไปแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงถึงกรณีนี้ว่า ยสท. ได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรผู้มีสิทธิ์ได้รับตามเกณฑ์ของโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระ ในสัดส่วนตามต้นทุนดำเนินการระหว่างผู้บ่มอิสระกับเกษตรกรผู้เพาะปลูกขายใบยาสด ในอัตรา 70:30 ของเงินช่วยเหลือ สำหรับใบยาเวอร์ยิเนีย ราคากิโลกรัมละ 17.50 บาท ผู้บ่มอิสระจะได้รับเงินช่วยเหลือ 12.25 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนเกษตรกรผู้เพาะปลูกขายใบยาสดจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5.25 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบเบอร์เลย์จะได้รับเงินช่วยเหลือ 9.80 บาทต่อกิโลกรัม และเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบเตอร์กิซจะได้รับเงินช่วยเหลือ 14.00 บาทต่อกิโลกรัม รวมทั้งการจัดสรรค่าธรรมเนียมการบริการโอนเงินแก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อีกรายละ 7 บาท
ผู้ว่าการ ยสท. กล่าวว่า ขณะนี้ ยสท. ได้ดำเนินการจ่ายเงินตามโครงการดังกล่าวให้กับเกษตรกรผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ครบถ้วนแล้ว จำนวน 12,936 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 125,095,308.94 บาท คงเหลือเงินส่งคืนกรมบัญชีกลาง จำนวน 34,594,308.94 บาท เนื่องจากชาวไร่บางส่วนมีคุณสมบัติไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยมีรายละเอียดการจ่ายเงินช่วยเหลือ ดังนี้
ผู้บ่มอิสระ จำนวน 51 ราย เงินช่วยเหลือ 18,828,075.08 บาท
ชาวไร่ใบยาสด จำนวน 1,783 ราย เงินช่วยเหลือ 8,023,591.30 บาท
ชาวไร่ยาสูบเวอร์ยิเนีย จำนวน 2,198 ราย เงินช่วยเหลือ 39,171,265.00 บาท
ชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จำนวน 5,772 ราย เงินช่วยเหลือ 37,083,025.56 บาท
ชาวไร่ยาสูบเตอร์กิซ จำนวน 3,132 ราย เงินช่วยเหลือ 21,898,800.00 บาท
ค่าธรรมเนียมการบริการโอนเงินแก่ ธ.ก.ส. จำนวน 90,552.00 บาท
นอกจากนี้ ยสท. ยังมีโครงการสนับสนุนค่าปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นให้แก่เกษตรกร ฤดูการผลิต 2565/2566 โดยใช้งบประมาณ 112.32 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการ ยสท. ได้มีมติอนุมัติการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรโดย ยสท. สนับสนุนปัจจัยการผลิต ร้อยละ 50 ในวงเงิน 56.16 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 วงเงิน 56.16 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเสนอขออนุมัติจัดสรรงบประมาณกลางจากรัฐบาลตามระเบียบขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ยสท. จะจ่ายเงินให้เกษตรกรในการรับซื้อใบยา ฤดูการผลิต 65/66 ช่วงระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2566
ผู้ว่าการ ยสท. กล่าวย้ำว่า เกษตรกรชาวไร่ยาสูบในสังกัดทั่วประเทศ คือครอบครัว ยสท. ที่มีความผูกพันกันอย่างยาวนาน ใบยาสูบเป็นพืชเศรษฐกิจที่ ยสท. มีนโยบายส่งเสริมเกษตรกรชาวไร่ยาสูบมาโดยตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่เริ่มการเพาะปลูก ซึ่งที่ผ่านมา ยสท. ได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อย่างเต็มที่ เมื่อเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบต่างๆ ยสท. ก็พร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือโดยไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน