Page 14 - M2F - วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
P. 14
14 WORK & LIFE วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
งานของคุณ
มีความหมายจริงๆหรือเปล่า??
มื่อโดนคนรู้จักถามถึงงานที่ทำาอยู่ หลายคนอาจให้คำาตอบ ประเภทที่ 3 เป็นอาชีพที่มีขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่
เว่าพอใจกับตำาแหน่งหน้าที่การทำางานของตนเอง แต่ ไม่ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรก หรือปัญหาที่เกิดจากการบริหาร
เราเคยคิดบ้างหรือไม่ว่างานที่เราทำาอยู่ทุกวันนั้นเป็นงานที่มี จัดการที่ไม่ดี เช่น พนักงานอุดรอยรั่วสระน้ำา
ประโยชน์ต่อเราและผู้อื่นหรือเปล่า หรือว่างานของเรา ประเภทที่ 4 เป็นอาชีพที่มีขึ้นมาเพื่อให้องค์กรสามารถ
มีความสลักสำาคัญอะไรต่อสังคมไหม หรือแค่มีไว้ให้ขึ้นชื่อ พูดได้ว่า เรามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ผลของการทำางาน
ว่ามีไปเพื่อประดับบารมีองค์กรเก๋ๆ ถ้าอยากค้นพบคำาตอบ ไม่สร้างประโยชน์ให้ใครและไม่มีความจำาเป็นต้องมีเลยก็ได้
เรามีหนังสือออกใหม่ที่จะช่วยไขความหมายของประเภทงาน เช่น เป็นคอลัมนิสต์นิตยสารที่แจกจ่ายภายในบริษัทซึ่ง
ต่างๆ มาแนะนำา ไม่มีใครสนใจอ่าน
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยนักมานุษยวิทยาชื่อ เดวิด ตบท้ายด้วยประเภทที่ 5 คืออาชีพที่ต้องดูแลคนใต้บังคับ
เกรบเบอร์ ภายใต้ชื่อว่า The Bullshit Jobs : Theory ซึ่ง บัญชาที่ไม่ได้ต้องการการดูแลหรือควบคุม เช่น หัวหน้างาน
แปลตรงๆ ว่า ทฤษฎีของงานเฮงซวยนั่นเอง โดย เกรบเบอร์ ของช่างที่ชำานาญงานอยู่แล้ว เป็นต้น
จุดประกายไอเดียของเขามาจากการที่นักเศรษฐศาสตร์ ผู้เขียนยังเสริมอีกว่า คนยังคงยึดค่านิยมเหมือนเดิมกับ
จอห์น เมย์นาร์ด เคน เคยทำานายไว้เมื่อปี 1930 ว่าในอนาคต ในอดีตที่ว่าการทำางานเป็นสิ่งที่บ่งชี้ความมีค่าในแง่ของ
เมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นและสามารถทำางาน ความเป็นมนุษย์ ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงยังยึดอยู่กับงานที่คิด
แทนเราได้ เวลาทำางานของเราจะเหลือเพียงประมาณ ว่าดีและเป็นที่ยอมรับ ถึงแม้ว่างานนั้นๆ ไม่ได้สร้างประโยชน์
15 ชม.ต่อสัปดาห์เท่านั้น ให้กับอะไรหรือใครเลยก็ตาม แถมยังเสียเวลาอันจำากัด
สิ่งนี้เองที่ทำาให้ เกรบเบอร์ อดสงสัยไม่ได้ว่า ใน ในชีวิตด้วย เขาให้ความเห็นว่าเราควรทำางานที่ไม่ต้องทำาให้
ยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้าทะยานจากอดีตแบบสุดๆ เรารู้สึกทรมานกับการทำางานและควรเป็นงานที่ทำาให้เรา
ทำาไมคนส่วนใหญ่ถึงยังต้องทำางานมากกว่า 15 ชม. มีเวลาพักผ่อนมากกว่าได้เงินเยอะๆ
ต่อสัปดาห์อยู่อีก หรือเป็นเพราะว่าเรากำาลังทำางานที่ อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านบางคนก็คิดเห็นต่างออกไปว่า
ไม่จำาเป็นต้องทำากันอยู่ งานหลายอย่างที่ผู้เขียนจัดอยู่ใน 5 ประเภทงานยอดแย่นั้น
ในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนจึงได้จำาแนกประเภทของงาน มีความจำาเป็นที่จะต้องมีอยู่ เช่น หากไม่มีเจ้าหน้าที่
ยอดแย่ไว้ด้วยกัน 5 ประเภท ซึ่งเขามองว่างานเหล่านี้ ประชาสัมพันธ์ บริษัทก็จะไม่มีใครรู้จักและไม่สามารถ
เป็นสาเหตุที่เรายังคงต้องทำางานกันในเวลาที่เท่ากับเมื่อก่อน ขับเคลื่อนสังคมได้ หรือหากไม่มีเจ้าหน้าที่บุคคลก็จะไม่มีใคร
ประเภทที่ 1 คืองานที่มีไปเพื่อทำาให้คนอื่นรู้สึกว่า มาจัดการปัญหาพนักงานในองค์กรที่อาจจะมากเกินที่
เขาเหล่านั้นมีความสำาคัญ เป็นงานที่ไม่จำาเป็นต้องมีก็ได้ ผู้บริหารจะรับมือไหว
แต่จุดประสงค์คือมีเพื่อเสริมบารมีผู้อื่น เช่น อาชีพผู้ช่วย
ที่วันๆ อาจจะแทบไม่มีงานให้ทำาเท่าไหร่นอกจากนั่งตอบเมล
แต่มีไว้เพื่อให้เจ้านายได้ชื่อว่าเป็นเจ้านาย เพราะถ้าเจ้านาย
ไม่มีผู้ช่วยหรือผู้ให้บังคับบัญชาแล้วก็คงจะเรียกว่าเจ้านาย SUCCESS
หรือหัวหน้าได้ไม่เต็มปากนัก
ประเภทที่ 2 คืออาชีพที่ไม่ต้องมีก็ได้ถ้าองค์กรอื่นหรือ F RMULA
บริษัทคู่แข่งไม่มี เช่น ทนายบริษัท หรือเซลส์ขายของผ่าน
โทรศัพท์ เป็นงานที่มีเพื่อให้ทัดเทียมกับที่อื่น เปรียบเหมือน
อาวุธที่มีไว้เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้แม้จะไม่มีสงครามก็ตาม ภาพ : www.youtube.com, www.en.wikipedia.org/wiki/Bullshit_Jobs:_A_Theory