SPORT

โดย กองบรรณาธิการ M2F

04 มีนาคม 2562 : 20:10 น.

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้วสำหรับ ศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งจะเหลือการแข่งขันอีกเพียง 9 นัดเท่านั้น โดยมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองจ่าฝูง ส่วนลิเวอร์พูลไล่ตามมาติดๆ

หลังจาก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกไปทำได้แค่เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 ในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมทช์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ครองจ่าฝูงอย่างเป็นทางการที่ 71 คะแนน โดยมีลิเวอร์พูลตามมาติดๆที่ 70 คะแนน ในขณะที่เหลือโปรแกรมฟาดแข้งอีก 9 นัดเท่านั้นในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล

ทั้งนี้ หากมองไปยังโปรแกรมที่เหลือแล้ว ทั้งสองทีมเจองานหนักใกล้เคียงกัน โดยแมนฯ ซิตี้ต้องเจอกับคู่แข่งในโซนหัวตาราง 2 นัด ได้แก่ สเปอร์ส และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่ลิเวอร์พูลยังเหลือโปรแกรมหนักกับสเปอร์สและเชลซีรออยู่เช่นกัน

นอกจากนี้ ด้วยแต้มที่เบียดกันชนิดหายใจรดต้นคอ ทำให้ทั้งสองทีมต้องคำนึงถึงเรื่องผลต่างประตูได้-เสียด้วย ซึ่งขณะนี้แมนฯ ซิตี้มีผลต่างที่ดีกว่าลิเวอร์พูล 7 ลูก และก่อนหน้านี้ศึกพรีเมียร์ลีกก็เคยตัดสินแชมป์ด้วยผลต่างประตูได้เสียมาแล้วในฤดูกาล 2011-2012 ซึ่งแมนฯ ซิตี้เป็นฝ่ายได้ฉลองแชมป์ โดยเก็บได้ 89 แต้มเท่ากับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่มีผลต่างประตูดีกว่า

ขณะที่มุมมองของ โจเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือปีศาจแดง ซึ่งปัจจุบันมารับหน้าที่กูรูวิเคราะห์เกมทางบีอิน สปอร์ตส์ มองว่าโมเมนตัมลุ้นแชมป์ในขณะนี้เอียงมาทางแมนฯ ซิตี้อย่างชัดเจน เพราะลิเวอร์พูลตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพยายามเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัด และยังต้องลุ้นให้ทีมเรือใบสีฟ้าสะดุดทำแต้มหล่นด้วย

“ลิเวอร์พูลเสียตำแหน่งจ่าฝูง และเป็นแมนฯ ซิตี้ที่ขึ้นนำแทน ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นฝ่ายกุมชะตาชีวิตไว้ในมือของตัวเอง ขณะเดียวกัน ผมคิดว่าเรื่องสภาพจิตใจก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ตอนนี้ลิเวอร์พูลไม่ได้คิดแค่เรื่องของตัวเองแล้ว พวกเขาต้องลุ้นถึงสองเกมในทุกสัปดาห์ นั่นคือเกมของตัวเองและเกมของแมนฯ ซิตี้” มูรินโญ่ กล่าว

ด้าน ไรอัน เมสัน อดีตมิดฟิลด์ของสเปอร์ส กลับมองต่างมุมว่าการเสียบัลลังก์จ่าฝูงของลิเวอร์พูลอาจจะส่งผลดีต่อทีมมากกว่าก็เป็นได้ เพราะความกดดันจะตกไปอยู่กับลูกทีมของกุนซือเปป กวาร์ดิโอล่าแทน

“การที่แมนฯ ซิตี้ขึ้นนำอาจไปเข้าทางลิเวอร์พูลก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ความกดดันไม่ได้อยู่ที่พวกเขาแล้ว พวกเขาจะมาเป็นฝ่ายไล่ล่าและไม่ต้องมารับมือกับความกดดัน” เมสัน กล่าว

โปรแกรม 9 นัดสุดท้ายของสองทีมลุ้นแชมป์

แมนฯ ซิตี้ (71 แต้ม) 

9 มี.ค. วัตฟอร์ด (เหย้า) 

30 มี.ค. ฟูแล่ม (เยือน) 

6 เม.ย. คาร์ดิฟฟ์ (เหย้า) 

14 เม.ย. คริสตัล พาเลซ (เยือน) 

20 เม.ย. สเปอร์ส (เหย้า)

24 เม.ย. แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน) 

28 เม.ย. เบิร์นลี่ย์ (เยือน) 

4 พ.ค. เลสเตอร์ (เหย้า) 

12 พ.ค. ไบรท์ตัน (เยือน) 

----------------------------

ลิเวอร์พูล (70 แต้ม)

10 มี.ค. เบิร์นลี่ย์ (เหย้า)

17 มี.ค. ฟูแล่ม (เยือน)

31 มี.ค. สเปอร์ส (เหย้า)

5 เม.ย. เซาแธมป์ตัน (เยือน)

14 เม.ย. เชลซี (เหย้า)

21 เม.ย. คาร์ดิฟฟ์ (เยือน)

26 เม.ย. ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า)

4 พ.ค. นิวคาสเซิ่ล (เยือน)

12 พ.ค. วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)

ข่าวที่น่าสนใจ