ทีมชาติไทยแผ่วครึ่งหลัง แพ้ทีมชาติจีน 1-2 จอดป้ายรอบ 16 ทีมเอเชียนคัพ
ศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามดวลกับแข้ง “มังกร” ทีมชาติจีน โดยเกมนี้ ไทยขาด 2 กองหลัง สุพรรณ ทองสงค์ และอดิศร พรหมรักษ์ ซึ่งติดโทษแบน ทำให้ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ต้องใช้บริการ พรรษา เหมวิบูลย์ เฉลิมพงศ์ เกิดแก้ว และมิก้า ชูนวลศรี เป็น 3 เซนเตอร์แบ็ก ส่วนในแนวรุก อดิศักดิ์ ไกรษร มีอาการบาดเจ็บ จึงเป็นโอกาสของ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ได้ลงมาเล่นแทน โดยทำเกมร่วมกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และธีรศิลป์ แดงดา
ขณะที่ทีมชาติจีนของกุนซือมาร์เซโล่ ลิปปี้ นำทัพมาโดยบรรดานักเตะตัวเก๋าอย่าง เจิ้งจื้อ กั๊วะหลิน ซึ่งผ่านประสบการณ์ในทีมชาติมาเกิน 100 นัด รวมทั้ง อู๋เล่ย ดาวยิงวัย 27 ปี ซึ่งมีดีกรีเป็นดาวซัลโวศึกไชนีส ซูเปอร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา
ครึ่งแรก ทีมชาติไทยได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 31 เมื่อกองหลังจีนเคลียร์ลูกเตะมุมไม่ขาด ทำให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้ยิงเรียดจากนอกกรอบ บอลมาเข้าเท้าศุภชัยในเขตโทษ ก่อนที่ “เจ้าอาร์ม” จะตวัดยิงเข้าไปตุงตาข่ายเป็นสกอร์ 1-0 ของทีมช้างศึก
ต่อมาครึ่งหลัง ทีมชาติจีนเร่งเปิดเกมรุกใส่ทันที เพื่อหวังทวงประตูคืน และมาตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ เจิ้งจื้อ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ามาให้ จ้าวจื้อ ขึ้นโขกจังหวะแรกติดเซฟผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แต่ยังตามซ้ำจังหวะสองเข้าไป
ถัดมาอีก 4 นาที ทัพนักเตะแดนมังกรแซงนำเป็น 2-1 เมื่อ เฉลิมพงษ์ ไปเสียบผู้เล่นจีนล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้จุดโทษทันที และเป็น กั๊วะหลิน สังหารเข้าไปไม่พลาด
หลังจากนั้น จีนยังเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมทีมชาติจีนชนะทีมชาติไทย 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปรอพบกับผู้ชนะคู่ระหว่าง อิหร่าน-โอมาน
ขณะที่ เวียดนาม อีกหนึ่งชาติจากอาเซียน ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยเอาชนะจุดโทษจอร์แดน 4-2 หลังจากเสมอกัน 1-1 ในเวลา 120 นาที โดยเวียดนามจะเข้าไปพบกับผู้ชนะระหว่างญี่ปุ่น-ซาอุดีอาระเบีย