วิ่งประเพณีระดับตำนาน "สสส.จอมบึงมาราธอน 2019 ปีที่ 34” สุดคึกคัก! ปอดเหล็กทั่วโลกแห่ร่วมชิงชัย 15,000 คน
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. จ.ราชบุรี ร่วมกับ มรภ.หมู่บ้านจอมบึง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี และหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนสไตล์ชาวบ้าน มาตรฐานสากล "สสส.จอมบึงมาราธอน 2019 ปีที่ 34 สนับสนุนโดย เมจิ ไฮโปรตีน" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “มาราธอนแห่งการเรียนรู้ New Chapter of the Legend” บทใหม่ของมาราธอนในตำนาน สู่การจัดตั้งศูนย์มาราธอนศึกษาแห่งประเทศไทย
นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผอ.สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า งานวิ่งประเพณีระดับตำนาน จอมบึงมาราธอนปีที่ 34 ยังคงได้รับความสนใจจากนักวิ่งทั่วประเทศอย่างไม่ล้นหลาม โดยปีนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมรวมกว่า 27,000 คน ก่อนจะใช้วิธีจับสลากล็อตโต้จนได้ผู้เข้าร่วมเต็มโควต้า 15,000 คน ซึ่งในปีนี้ได้พัฒนามาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะด้านความปลอดภัย เพื่อเป็นการสะท้อนเสียงเรียกร้องจาก “หมู่บ้านจอมบึง” ไปสู่อีกกว่า 8 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศ ให้เห็นคุณค่าของการวิ่งและการออกกาลังกายด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้พี่น้องชาวไทยมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนำไปสู่การลดภาวะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตลอดจนพัฒนาสุขภาวะของคนไทย นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะจัดตั้งศูนย์มาราธอนศึกษา เพื่อให้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้ด้านมาราธอน ที่ทันสมัยและทันเหตุการณ์กับกระแสการเติบโตของการออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพของคนในประเทศต่อยอดไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวกีฬาในอนาคต
"การแข่งขันวิ่งจอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 34 ยังจัดเต็มกิจกรรมสุดพิเศษเอาใจนักวิ่งที่เดินทางมาร่วมงานเป็นเวลา 3 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม - 20 มกราคม ไม่ว่าจะเป็น จอมบึงมาราธอน Expo งานแสดงสินค้าสำหรับการวิ่งและการออกกำลังกายครบวงจรจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก การประชุมกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์เรื่องการวิ่งมาราธอน และการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่มีมาตรฐาน กิจกรรมวิ่งของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ม.ต้น ม.ปลาย นิทรรศการวิ่งสู่ชีวิตใหม่ ตลอดจนการแจกพันธุ์กล้าไม้ให้กับผู้ร่วมงาน" นพ. ไพโรจน์ กล่าว
ส่วนผลการแข่งขันปรากฎว่า ธนาทิพย์ ดีฉิม ปอดเหล็กหนุ่มจากขอนแก่น สังกัดสยามรันเนอร์ คลับ วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 2.41.27 ชั่วโมง คว้าแชมป์ประเภทโอเวอร์ออลชาย มาราธอน ไปครอง ส่วนแชมป์โอเวอร์ออลมาราธอนหญิง ตกเป็นของ ธิดา สนเจริญ ปอดเหล็กสาวจากสงขลา สังกัดชมรมวิ่งหาดใหญ่ ด้วยเวลา 3.30.53 ชั่วโมง คว้ารางวัลโอเวอร์ออลหญิง มาราธอน พร้อมครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี