'โค้ชโต่ย' ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือขัดตาทัพทีมชาติไทย พร้อมกู้วิกฤตทัพช้างศึก ในการแข่งขันฟุตบอลรายการ เอเชี่ยน คัพ อีก 2 นัดที่เหลือของรอบแบ่งกลุ่ม
“โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ประกาศพร้อมปลุกทัพช้างศึกให้กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามานั่งเก้าอี้กุนซือขัดตาทัพแทน มิโลวาน ราเยวัช ซึ่งโดนปลดตกเก้าอี้ไปเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย พ่ายแพ้แบบหมดรูปต่อทีมชาติอินเดีย 1-4 ในศึกฟุตบอลเอเอฟซี เอเชี่ยน คัพ 2019 นัดแรก กลุ่มเอ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศยุติสัญญาการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยของราเยวัช พร้อมทีมงานสต๊าฟโค้ชบางส่วนทันที
“สำหรับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น ผมมั่นใจว่านี่ไม่ใช่รูปแบบการเล่นของทีมชาติไทยที่สมาคมเเละทุกคนที่สนับสนุนทีมชาติไทยต้องการ นอกจากภาระหน้าที่และการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังของสมาคม ในอีกมุมหนึ่ง ผมคือแฟนบอลไทยคนหนึ่งที่รู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขันเช่นเดียวกับแฟนฟุตบอลไทยทั้งประเทศ และในฐานะนายกสมาคมฯ ผมจึงไม่อาจนิ่งเฉยกับปัญหานี้ได้” บิ๊กอ๊อด แถลง
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศได้แต่งตั้ง “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ซึ่งเป็นผู้ช่วยของราเยวัช ขึ้นมาทำหน้าที่กุนซือขัดตาทัพ โดยมี “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นมือขวา เตรียมนำแข้งช้างศึกลงหวดเอเชียนคัพ รอบแรก อีก 2 นัดที่เหลือ ซึ่งจะพบกับบาห์เรน ในวันที่ 10 ม.ค. และพบกับ “เจ้าภาพ” สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 14 ม.ค.
“ยอมรับว่าการขึ้นมาทำหน้าที่ครั้งนี้คงเป็นงานที่หนัก แต่อีกมุมหนึ่งผมยังเชื่อว่าศักยภาพผู้เล่นไทยไม่ด้อยไปกว่าใคร ดังนั้นถ้าเราร่วมมือกันสนับสนุนซึ่งกันและกัน ผมเชื่อว่าเราจะมีผลงานที่ดีขึ้น ก็หวังว่าทั้งผม และโค้ชโชคจะทำให้สถานการณ์ รวมถึงบรรยากาศของทีมดีขึ้นใน 2 นัดต่อจากนี้” โค้ชโต่ย ซึ่งเข้ามาเป็นผู้ช่วยของราเยวัช ตั้งแต่กลางปี 2017 กล่าว
ขณะเดียวกัน โค้ชโต่ยได้เผยคำพูดของราเยวัช หลังจากได้มีโอกาสพูดคุย ก่อนที่ทัพช้างศึกจะออกเดินทางไปยังนครดูไบ เพื่อเตรียมตัวลงสนามพบกับบาห์เรน ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยราเยวัช ซึ่งไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับทีม ได้เข้ามาสวมกอดกับนักเตะทีมชาติไทยทุกคนเพื่อร่ำลากันด้วย
“ผมบอกกับโค้ชราเยวัชว่า ผมอยากขอบคุณจริงๆ กับช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่ให้เกียรติโค้ชคนไทยตัวเล็กๆ อย่างผม อีกทั้งยังให้ความรู้ด้านฟุตบอลและประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ ผมจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด จากนั้นโค้ชบอกกับผมว่า ขอให้ผมสู้ต่อไป พาทีมชาติไทยพัฒนาขึ้นไปให้ได้ และจากที่ทำงานหนักอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นเฮดโค้ช ก็ต้องทำงานหนักให้มากกว่าเดิม และโค้ชก็ทิ้งท้ายว่าขอให้ผม รวมถึงทีมงานทุกคนโชคดีในช่วง 2 เกมที่เหลือ ซึ่งโค้ชก็ยังเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยเสมอ” เฮดโค้ชวัย 49 ปี เผย