“เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ผงาดคว้าแข้งยอดเยี่ยมแห่งปี ในงานเอฟเอ อวอร์ด 2018
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จัดงาน “เอฟเอ อวอร์ด 2018” ที่โรงละครอักษรา เธียเตอร์ คิง เพาเวอร์ ซ.รางน้ำ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ เป็นประธาน
“สมาคมฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ที่ทำผลงานโดดเด่น การมอบรางวัลเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ นอกจากจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬา และสโมสรที่ทำผลงานดีเป็นที่ประจักษ์ในรอบปีที่ผ่านมา ให้ทุกคนรับรู้ ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬา สำหรับฤดูกาลต่อไป” บิ๊กอ๊อด กล่าว
สำหรับงานนี้มีขึ้นเพื่อประกาศเกียรติคุณให้แก่บุคลากรที่ร่วมพัฒนาฟุตบอลไทยตลอดปี 2561 ทั้งหมด 26 รางวัล ซึ่งไฮไลท์ของงานนี้อยู่ที่รางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปี ผลปรากฏว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ คว้ารางวัลนี้ไปตามความคาดหมาย หลังจาก “เมสซี่เจ” โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนกระทั่งได้รับการยอมรับจากวงการฟุตบอลของญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้ถูกโหวตให้คว้ารางวัลนักเตะทรงคุณค่าแห่งฤดูกาลของสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 11 นักเตะของทีมยอดเยี่ยมศึกลูกหนังเจลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา
“ผมดีใจและภูมิใจกับทุกรางวัลที่ได้รับ ผมขอขอบคุณแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์โค้ช และทุกคนที่ให้กำลังใจผม และที่สำคัญคือครอบครัวที่สนับสนุนผมมาตลอด” ชนาธิป กล่าว
ขณะที่รางวัลนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมเป็นของ พิสมัย สอนไสย์ แข้งสาวทีมชาติไทยจากสโมสร ร.ร.กีฬาจังหวัดชลบุรี รางวัลนักฟุตบอลเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ จากสโมสรชลบุรี เอฟซี ผู้เล่นทรงคุณค่าไทยลีก ได้แก่ สุมัญญา ปุริสาย กองกลางของทรู แบงค็อก รางวัลหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สรุป 26 รางวัล FA Thailand Award 2018
1. บุคคลสำคัญของวงการฟุตบอลไทย : คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา
2. สโมสรฟุตบอลสร้างแรงบันดาลใจแห่งปี : พีที ประจวบ เอฟซี
3. สนามแข่งขันสร้างแรงบันดาลใจแห่งปี : บางกอกกล๊าส เอฟซี
4. สโมสรพัฒนาการยอดเยี่ยมแห่งปี : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
5. สนามแข่งขันยอดเยี่ยมแห่งปี : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
6. นักเตะเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปี : วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี)
7. รางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปี (ลีก) : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (เอสซีจี เมืองทอง) ในเกมที่พบกับพัทยา ยูไนเต็ด
8. รางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปี (ทีมชาติ) : ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์) ในเกมที่พบกับสิงคโปร์
9.ผู้ตัดสินยอดเยี่ยมแห่งปี : ศิวกร ภูอุดม
10.นักฟุตซอลหญิงยอดเยี่ยม : พรรนิภา กมลรัตน์ (อเมซอน บลูเวฟ)
11.นักฟุตซอลชายยอดเยี่ยม : เจษฎา ชูเดช (ราชนาวี)
12.นักฟุตบอลชายหาดยอดเยี่ม : คมกฤช ณ น่าน
13.ผู้ทำประตูสูงสุดแห่งปี (ไทยลีก 3 และ 4) : โอลิเวียรา ซิลวา ดิเอโก้ 29 ประตู (นครปฐม)
14.หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม (ไทยลีก 3 และ 4) : ธงชัย สุขโกกี (นครปฐม)
15.ผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปี (ไทยลีก 3 และ 4) : ฉัตรชัย นาควิจิตร (เจแอล เชียงใหม่)
16.ผู้ทำประตูสูงสุดแห่งปี (ไทยลีก 2) : บาร์รอส ทาร์เดลลี 21 ประตู (ตราด)
17.หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม (ไทยลีก 2) : วิชาญชัย หาทรัพย์ (พีทีที ระยอง)
18.ผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปี (ไทยลีก 2) : บาร์รอส ทาร์เดลลี (ตราด)
19.สโมสรแฟร์เพลย์แห่งปี (ไทยลีก) : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
20.ผู้ทำประตูสูงสุดแห่งปี (ไทยลีก) : ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ 34 ประตู (บุรีรัมย์)
21.หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม (ไทยลีก) : โบซิดาร์ บันโดวิช (บุรีรัมย์)
22.ผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปี (ไทยลีก) : สุมัญญา ปุริสาย (ทรู แบงค็อก)
23.นักฟุตบอลต่างชาติยอดเยี่ยมแห่งปี : ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ (บุรีรัมย์)
24.รางวัลเกียรติยศจากนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย : นวลพรรณ ล่ำซำ
25.นักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี : พิสมัย สอนไสย์ (ร.ร.กีฬาจังหวัดชลบุรี)
26.นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปี : ชนาธิป สรงกระสินธ์