SPORT

โดย กองบรรณาธิการ M2F

06 ธันวาคม 2561 : 21:49 น.

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันยังคงไว้วางใจให้ราเยวัชคุมทีมต่อไป โดยจะใช้ศึกเอเชี่ยนคัพในการประเมินผลงานอีกครั้ง

หลังจากทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย โดนมาเลเซียเขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ ศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ทำให้มีกระแสเรียกร้องจากแฟนบอลที่ต้องให้มีการเปลี่ยนแปลงตัว กุนซือมิโลวาน ราเยวัช ซึ่งพาทีมทำผลงานน่าผิดหวัง อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ผลงานในศึกซูซูกิคัพไม่สามารถนำมาชี้วัดการทำงานของราเยวัชได้ เพราะทีมชุดดังกล่าวไม่ใช่ทีมชาติชุดใหญ่ เนื่องจากขาด 4 ผู้เล่นตัวหลักที่ค้าแข้งอยู่ในต่างประเทศ ดังนั้น สมาคมจึงยังคงให้กุนซือชาวเซิร์บรายนี้คุมทัพช้างศึกลุยทัวร์นาเม้นท์สำคัญต่อไป และจะเป็นรายการชี้ชะตาอนาคตของราเยวัช นั่นคือศึกเอเชี่ยนคัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในเดือนหน้า

“ผลการแข่งขันนัดที่ผ่านมาถือเป็นเรื่องปกติของกีฬาฟุตบอลที่มีแพ้มีชนะ การประเมินผลงานของทีมชาติและโค้ชราเยวัชจะมีขึ้นหลังจากจบศึกเอเชี่ยนคัพ ซึ่งสาเหตุที่เราจะประเมินผลงานหลังจากเอเชี่ยนคัพ เพราะว่าทีมชาติที่ใช้แข่งซูซูกิคัพนั้นไม่ได้ถือว่าเป็นชุดฟูลทีม เนื่องจากไม่สามารถใช้งานผู้เล่นตัวหลักที่ค้าแข้งต่างประเทศ 4 คน จึงเป็นเหตุที่เราไม่สามารถนำมาชี้วัดผลงานของราเยวัชได้” บิ๊กอ๊อด กล่าว

สำหรับศึกเอเชี่ยนคัพ 2019 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5 ม.ค.-1 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ซึ่งทัพช้างศึกเตรียมเรียกตัวผู้เล่นเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมในวันที่ 19 ธ.ค. และจะได้ 4 แข้งหลักกลับมาช่วยทีม ได้แก่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ธีราทร บุญมาทัน ชนาธิป สรงกระสินธ์ และธีรศิลป์ แดงดา โดยรอบแรก ทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ อินเดีย บาห์เรน และ “เจ้าภาพ” สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ส่วนผลซูซูกิ คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เวียดนาม เปิดบ้านชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 รวมผลสองนัด เวียดนามชนะ 4-2 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับมาเลเซีย โดยเกมรอบชิงนัดแรก มาเลเซียจะได้เป็นเจ้าบ้านก่อน ในวันที่ 11 ธ.ค. จากนั้นนัดที่สองไปเล่นที่เวียดนาม วันที่ 15 ธ.ค.

ข่าวที่น่าสนใจ