“กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แถลงข่าวเปิดตัว “โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก เข้ามารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่อย่างเป็นทางการ แทนที่ ราโดวาน เคอร์ซิช กุนซือชาวเซิร์บ ซึ่งพาทีมจบอันดับ 4 ของตาราง และแยกทางกันไปเมื่อช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว
โค้ชเบ๊กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาร่วมงานกับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเอสซีจี เมืองทอง ซึ่งเป้าหมายสำคัญเพียงอย่างเดียว คือการพาทัพกิเลนผยองทวงคืนความยิ่งใหญ่ และคว้าแชมป์ไทยลีกฤดูกาลหน้าให้ได้
“ผมยอมรับว่าการเข้ามาคุมทีมในครั้งนี้ค่อนข้างกดดัน แต่นี้ไม่ใช่ครั้งที่กดดันที่สุดของผม อย่างไรก็ดี ผมไม่ได้มาเพื่อพาทีมติดแค่ท็อปโฟร์ เพราะปีนี้เราหวังถึงแชมป์” เฮดโค้ชวัย 51 ปี กล่าว
ขณะที่ “บิ๊กเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสร เผยว่า โค้ชเบ๊เป็นกุนซือที่มีประสบการณ์สูง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานกับสโมสรขนาดกลางถึงขนาดเล็ก แต่โค้ชเบ๊ก็พาทีมทำได้ตามเป้าหมายทุกครั้ง รวมทั้งเป็นโค้ชที่มีจิตใจกระหายชัยชนะ อีกทั้งสามารถปลุกปั้นและดึงศักยภาพของนักเตะออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวอย่างเช่น ชนานันท์ ป้อมบุปผา และ คลีตัน ซิลวา ซึ่งเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ทำให้สโมสรตัดสินใจดึงโค้ชเบ๊เข้ามารับตำแหน่ง
นอกจากนี้ บิ๊กเป้เผยว่า ขุมกำลังของสโมสรในฤดูกาลใหม่จะเป็นการผสมผสานนักเตะคุณภาพที่มีอยู่แล้ว บวกกับซูเปอร์สตาร์อย่าง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กับ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ซึ่งจะถูกดึงตัวกลับมาจากการไปค้าแข้งในศึกเจลีก ที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นจากอะคาเดมีหลายคนที่พร้อมก้าวขึ้นมาโชว์ฝีเท้าในทีมชุดใหญ่อีกด้วย
ขณะเดียวกัน เอสซีจี เมืองทอง ได้เปิดตัวนักเตะใหม่แต่หน้าเก่า คือ มาริโอ ยูรอฟสกี้ กองกลางวัย 32 ปีชาวมาซิโดเนีย ซึ่งตกลงย้ายกลับมาสู่ทีมอีกครั้งหลังถูกปล่อยตัวจากบางกอกกล๊าส โดยยูรอฟสกี้เคยค้าแข้งกับเมืองทองระหว่างปี 2012-2015 และเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทีมกิเลนผยองคว้าแชมป์ไทยลีกเมื่อปี 2012