ความปรารถนาที่จะทำลายยังเป็นความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์ - ปิกัสโซ
ชื่อของ Banksy เป็นที่รู้จักกันในวงการศิลปะระดับโลก เรียกได้ว่าเขาผู้นี้คือเจ้าพ่อแห่งวงการสตรีทอาร์ตเลยก็ว่าได้ แม้จะทำงานแบบหลบๆ ซ่อนๆ ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริง และมักอวดผลงานตามท้องถนนเหมือนศิลปินสตรีทอาร์ตทั่วๆ ไป แต่งานของเขาได้รับการประเมินไว้สูงมาก และมีคนอยากได้ไว้ในครอบครองมากมาย ถึงขนาดตัดกำแพงเป็นชิ้นๆ เพื่อเก็บไว้ก็มี เพราะงานของ Banksy ไม่ใช่แค่พันสองพันบาท แต่มีราคาสูงนับสิบล้านบาท
แต่แล้วจู่ๆ ศิลปินผู้ลึกลับ ก็แหวกขนบตัวเองด้วยการสร้างผลงานลงบนผืนผ้าใบ พร้อมติดกรอบสวยงามตามธรรมเนียงานศิลปะกระแสหลัก เป็นภาพชื่อ “เด็กหญิงกับลูกโป่ง” (Girl With Balloon) ซึ่งเป็นภาพเวอร์ชั่นผ้าใบ ของผลงานเดิมในชื่อคล้ายๆ กัน (Balloon Girl) ซึ่งเขาวาดไว้บนผนังร้านค้าแห่งหนึ่งทางตะวันออกของกรุงลอนดอน เมื่อปี 2002 และต่อมาถูกตัดจากผนังแล้วนำออกประมูลเมื่อปี 2004 โดย Sotheby's สถาบันประมูลชื่อก้องโลก
ต่อมาในปี 2006 Banksy จึงวาดงานชิ้นใหม่ขึ้นมาโดยใช้สีสเปรย์วาดบนผ้าใบและใส่กรอบอย่างที่กล่าวไว้ ซึ่งไม่ใช่แนวทางของเขาเลย (ผู้คร่ำหวอดในวงการศิลปะน่าจะเอะใจตั้งแต่แรก) และได้มีการนำออกประมูลกับ Sotheby's เจ้าเก่า โดยจัดประมูลเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่กรุงลอนดอน โดยมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามประมูลที่ราคา 1.04 ล้านปอนด์ หรือราว 44.7 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ถึง 3 เท่า
แต่แล้ว หลังจากเคาะค้อนประมูล ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ภาพในกรอบค่อยถูกตัดเป็นฝอยๆ เลื่อนลงมาจากในกรอบ ราวกับกระดาษที่ถูกเครื่องทำลายเอกสารตามออฟฟิศทั่วไป สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้คนในห้องประมูล และมีบางคนได้ถ่ายภาพเห็นเหตุการณ์ไว้ ซึ่งมีบางคนอ้าปากค้าง ตาลุกโพลงด้วยความตกใจ บางคนก็ถึงกับปล่อยเสียงหัวเราะออกมาราวกับเพิ่งรู้ว่าถูก Banksy ปั่นหัว
คนที่น่าจะตกใจที่สุดคือ สถาบันประมูล Sotheby's โดย อเล็กซ์ แบรนด์ชิก หัวหน้าฝ่ายศิลปะยุโรปร่วมสมัยของบริษัทนี้กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า “ดูเหมือนว่าเราจะถูก Banksy เล่นงานซะแล้ว” และทางบริษัทจะหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในวงการศิลปะชี้ว่า แม้ภาพนี้จะถูกทำลายแต่มูลค่าของภาพที่ถูกทำลายน่าจะสูงกกว่าตอนถูกประมูลด้วยซ้ำ โดย ปิแอร์ คุกชัน ศิลปินชาวเมืองเจนีวาที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย บอกว่า ผู้ที่ประมูลภาพนี้ได้ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะเป็นภาพประวัติศาสตร์ไปแล้ว และการหยอกของ Banksy ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประวัติศาสตร์ศิลปะยุคใหม่เลยทีเดียว
ในเวลาต่อมา Banksy โพสต์คลิปในอินสตาแกรม บอกเล่าสาเหตุที่ทำหยอกเล่นแรงๆ ครั้งนี้ โดยเขียนแคปชั่นว่า “The urge to destroy is also a creative urge - Picasso.” (ความปรารถนาที่จะทำลายยังเป็นความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์ - ปิกัสโซ) ในเนื้อหาของคลิปบอกว่า เมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาแอบติดตั้งเครื่องทำลายกระดาษด้านในกรอบภาพ ในกรณีที่มันถูกนำออกประมูล จากนั้นตามด้วยภาพเหตุการณ์ความวุ่นวายหลังจากที่ภาพถูกประมูลได้หมาดๆ