ในขณะที่ผู้คนบางส่วนกำลังเตรียมจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อให้ได้รับการปกป้องเพิ่มขึ้น แต่ทางการสหรัฐยังไม่แนะนำ
เจย์ บัทเลอร์ รองผู้อำนวยการด้านโรคติดต่อของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวกรณีความปลอดภัยและความจำเป็นในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อเป็นเข็มกระตุ้น
โดยระบุว่า ทาง CDC กำลังศึกษาว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้นหรือไม่ หลังจากพบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 บางรายมีผลข้างเคียงรุนแรงขึ้น แม้ว่าจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ยากก็ตาม ซึ่งบ่งบอกว่าการฉีดเข็มที่ 3 อาจมาพร้อมความเสี่ยงที่มากขึ้น
บัทเลอร์เผยอีกว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ชาวอเมริกันหรือไม่ แต่มองเห็นว่าอาจมีความจำเป็นที่จะต้องฉีดในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงติด Covid-19 สูง
ด้าน แอนดรูว์ ปาเวีย กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากวิทยาลัยการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยยูทาห์ในฐานะตัวแทนสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) เผยว่า ทางสถาบันกำลังเดินหน้าศึกษาวิจัยเพื่อประเมินความจำเป็นของวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมทั้งแนวทางการผสมวัคซีน ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการบริการจัดการวัคซีนจากหลายผู้ผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งทาง NIH หวังว่าน่าจะได้รับคำตอบทั้งหมดภายในเร็ววันนี้
ขณะที่ แอนโธนี ฟาวซี ที่ปรึกษาอาวุโสด้านสาธารณสุขของทำเนียบขาวเผยว่า ขณะนี้วัคซีนเข็มที่ 3 ยังไม่จำเป็น และกล่าวต่อว่า การพูดคุยเรื่องวัคซีนเข็มที่ 3 ของบริษัทผู้ผลิตยากับหน่วยงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องถือเป็นการเตรียมการที่เหมาะสมสำหรับกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้วัคซีนเข็มที่ 3
อย่างไรก็ดี ฟาวซีย้ำว่า ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจำเป็นต้องฉีดเข็มที่ 3 เนื่องจากขณะนี้สหรัฐยังฉีดวัคซีนให้ประชาชนยังไม่มากพอ
ฟาวซีกล่าวอีกว่า การหารือเกี่ยวกับวัคซีนเข็มที่ 3 ไม่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานว่าภูมิคุ้มกันลดลงหลังฉีดวัคซีนครบทั้งสองเข็มแล้ว และเอ่ยว่าคำถามสำคัญตอนนี้คือ วัคซีนจะปกป้องได้นานเท่าใดและปกป้องได้เพียงใด