ยุโรปบรรลุเป้ามีวัคซีนพอสำหรับผู้ใหญ่ 70% แต่หลายประเทศยังระบาดหนักเพราะสายพันธุ์เดลตา
เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ว่าจะมีการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ประมาณ 500 ล้านโดสไปยัง 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในวันที่ 11 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้ยุโรปจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชากรวัยผู้ใหญ่อย่างน้อย 70%
ฟอน เดอร์ เลเยน ระบุว่าแม้ว่าโควิด-19 จะยังไม่หมดไปแต่ยุโรปจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ซึ่งประเทศสมาชิกต้องมุ่งมั่นในการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนพวกเขาจึงจะปลอดภัย
ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรปพบว่า 63.8% ของประชากรในกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไปในยุโรปได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส โดย 44.1% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
ปัจจุบันยุโรปได้กระจายวัคซีน 330 ล้านโดสซึ่งมาจาก Pfizer, 100 ล้านโดสจาก AstraZeneca, 50 ล้านโดสจาก Moderna และ 20 ล้านโดสจาก Johnson & Johnson ไปยังประเทศสมาชิกซึ่งมีประชากรวัยผู้ใหญ่รวมกันราว 366 ล้านคน
ในเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา เธียร์รี เบรตัน กรรมาธิการฝ่ายตลาดภายในของคณะกรรมาธิการยุโรปเคยกล่าวว่ายุโรปอาจสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ภายในเดือนก.ค. เนื่องจากจะมีการจัดส่งวัคซีนปริมาณมาก
แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรปชี้ว่ายุโรปกำลังจะเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่โดยสายพันธุ์เดลตาจะเป็นสายพันธุ์หลัก
คลูจระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในยุโรปลดลงเป็นเวลา 10 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่มันจบลงแล้วโดยในช่วงปลายเดือนมิ.ย. มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10% เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการมาตรการควบคุมโรค
อย่างไรก็ตามแม้ว่ายุโรปจะประสบความสำเร็จในการกระจายวัคซีนได้ตามเป้าแต่ประเทศสมาชิกหลายประเทศต้องยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในขณะนี้เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น
โดยระบุว่ามีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดียซึ่งแพ่ระบาดอย่างรวดเร็วไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรปที่เคยออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในยุโรปช่วงฤดูร้อนนี้โดยอ้างการประมาณการจากหน่วยงานป้องกันโรคของยุโรป
Photo by François WALSCHAERTS / POOL / AFP