จีนปราบปรามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นต่างประเทศ ส่งผลให้มีการขาย Didi และบริษัทอื่นๆ อย่างหนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าหุ้น Didi Global Inc ร่วงลงมากถึง 25% ในการซื้อขายช่วงต้นของสหรัฐในช่วงแรกของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น (วันพุธตามเวลาไทย) หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนสั่งให้แอปของบริษัท Didi ถูกลบ ไม่กี่วันหลังจาก Didi จดทะเบียน 4.4 พันล้านดอลลาร์ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
แอพของบริการเรียกแท็กซี่ยอดนิยมในจีนถูกสั่งให้ลบออกจากร้านแอพมือถือในประเทศจีนในวันอาทิตย์โดย สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) เพื่อตรวจสอบการค้นพบว่าบริษัทได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อย่างผิดกฎหมายหรือไม่
นอกจากนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา CAC ยังได้ประกาศการสอบสวนการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในบริษัทอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งหุ้นของบริษัทแม่ที่จดทะเบียนในสหรัฐก็ลดลงเช่นกัน คือ Kanzhun Ltd และ Full Truck Alliance ลดลง 17.4% และ 14.3% ตามลำดับ
รัฐบาลจีนยังกล่าวด้วยว่าจะการขยายการดำเนินสอบสวนการนอกเหนือจากภาคเทคโนโลยี โดยจะยกระดับการกำกับดูแลบริษัทจีนที่จดทะเบียนในต่างประเทศ เพื่อปราบปรามกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและลงโทษการออกหลักทรัพย์ที่ฉ้อฉล
หุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ใน Pop Culture Group โปรโมเตอร์อีเวนต์ฮิปฮอปของจีนร่วงลง 32% หุ้น Didi Global ซื้อขายล่าสุดที่ประมาณ $12.24 - 25.5% ต่ำกว่าราคาเปิดตัวที่ 16.65 ดอลลาร์ในวันที่ 30 มิถุนายน
Didi กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าการแบนแอพจะส่งผลกระทบกับรายได้ในจีน แม้ว่าจะยังคงมีให้บริการต่อไปสำหรับผู้ใช้ปัจจุบันก็ตาม นอกจากนี้ยังบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าไม่ทราบรายละเอียดเรื่องการสอบสวนก่อนการเสนอขายหุ้น
แต่ Wall Street Journal รายงานเมื่อวันอังคารโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทได้รับคำเตือนจากหน่วยงานกำกับดูแลให้ชะลอการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และตรวจสอบความปลอดภัยของเครือข่าย แต่ Didi ก็ยังเดินหน้าขาย IPO ต่อไปจนถึงทางการสั่งเก็บแอพในที่สุด “จากการที่แหล่งข่าวบางแห่งที่บอกว่า Didi รู้ล่วงหน้าหลายเดือนว่าการปราบปรามกำลังจะเกิดขึ้น บางคนจะเริ่มสงสัยในเรื่องการกำกับดูแลบริษัทเช่นกัน” Sumeet Singh ผู้อำนวยการ Aequitas Research กล่าว “หากการปราบปรามมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าหลายเดือน นั่นหมายความว่าจะไม่ยุติในเร็วๆ นี้”
หุ้น Didi ขายในราคา 14 ดอลลาร์ต่อหุ้นในการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งเป็นการจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทจีนในสหรัฐนับตั้งแต่ Alibaba ระดมทุนได้ 25,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2014 บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 75,000 ล้านดอลลาร์ ณ วันศุกร์
"นักลงทุนบางคนอาจรู้สึกสบายใจที่การดำเนินการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต้องได้รับไฟเขียวจากทางการจีนเสียก่อน เมื่อตอนนี้เรารู้แล้วว่ามันไม่ใช่ชัวร์ๆ” Dave Wang ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Nuvest Capital ของสิงคโปร์กล่าว
ผู้สังเกตการณ์ตลาดกล่าวว่าความเคลื่อนไหวดังกลาวอาจขยายวงกว้างออกไป
Matthew Keator หุ้นส่วนผู้จัดการใน Keator Group ซึ่งเป็นบริษัทบริหารความมั่งคั่งในเมืองเลนน็อกซ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ กล่าวว่า "จากข่าวล่าสุดบางส่วน นักลงทุนจะต้องไม่ใช่แค่ดูการประเมินมูลค่าของบริษัทตามโอกาสระดับโลกเท่านั้น แต่ควรเตือนตัวเองว่านโยบายต่างๆ (ของรัฐบาลประเทศต่างๆ) จะมีผลบังคับใช้ และจะส่งผลต่อบริษัทต่างๆ ที่นี่ใน (สหรัฐ) อย่างไร"
Peter Cardillo หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การตลาดของ Spartan Capital Securities ในนิวยอร์ก มองว่าอาจมีนัยยะทางการเมืองระหว่างประเทศที่กว้างขึ้น
"มันเป็นช่องทางแทงข้างหลังเพื่อที่จะแก้แค้นสหรัฐโดยจำเป็นต้องพูดถึงสหรัฐอ" คาร์ดิลโลกล่าว "การปราบปรามนี้เปิดประตูสู่ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต"
Photo by STR / AFP / China OUT