ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศว่าประเทศสามารถหลุดพ้นจากการครอบงำของโควิด-19 ได้สำเร็จ
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศว่าสหรัฐได้รับอิสรภาพจากไวรัสโคโรนา โดยสามารถยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สำเร็จอันเนื่องมาจากโครงการฉีดซึ่งมีประชากรวัยผู้ใหญ่ 67% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส แม้จะพลาดเป้าที่ตั้งไว้ที่ 70%
"วันนี้พวกเราทั้งประเทศสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าอเมริกากำลังกลับมา แม้ว่าทุกวันนี้ไวรัสจะยังไม่หายไปแต่มันไม่ได้บงการชีวิตพวกเราอีกต่อไป มันไม่ทำให้ประเทศของเราเป็นอัมพาตอีกต่อไป และภายใต้อำนาจของพวกเราจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก" ไบเดนกล่าว
พร้อมเรียกร้องให้ชาวอเมริกันที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข้ารับการฉีดวัคซีน เนื่องจากสหรัฐได้รับความสูญเสียไปมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีประชาชนเสียชีวิตกว่า 603,000 คน ไบเดนระบุว่าการฉีดวัคซีนนับว่าเป็น การแสดงออกถึงความรักชาติมากที่สุดที่ทุกคนสามารถทำได้ในขณะนี้
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐดีขึ้นโดยตัวเลขผู้ติดเชื้อ การรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโควิด-19 ลดลง ตลอดจนเศรษฐกิจของประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกเริ่มฟื้นตัว นอกจากนี้สำนักงานสถิติแรงงานเปิดเผยว่าในเดือนมิ.ย. มีการจ้างงานมากกว่า 850,000 ตำแหน่ง
ตามการจัดอันดับของ Bloomberg Covid Resilience ยังระบุว่าสหรัฐเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการเปิดโลกอีกครั้งหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อันเนื่องมาจากการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง รวดเร็ว และครอบคลุมทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าส่วนหนึ่งคือการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วทั่วประเทศ โดยตั้งแต่นิวยอร์กไปจนถึงแคลิฟอร์เนียพบว่ามีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่าไวรัสจะยังคงสร้างความเสียหายต่อพื้นที่และเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศต่อไป
ประกอบกับการฉีดวัคซีนของประเทศที่ชะลอตัวลงในระยะหลังเนื่องจากความลังเลใจในการฉีดวัคซีนของประชาชน ส่งผลให้ผู้ป่วยทั่วประเทศเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ส่วนหนึ่งมาจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาในพื้นที่ที่ไม่ได้รับวัคซีนมากขึ้น
นอกจากนี้ตามผลสำรวจของ Washington Post และ ABC News ระบุว่าชาวอเมริกัน 2 ใน 10 คนยืนยันว่าจะไม่ฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับผลสำรวจในเดือนเม.ย.
ตามรายงานของ Bloomberg Vaccine Tracker ระบุว่าอัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐลดลงประมาณ 2 ใน 3 ตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนประมาณ 1.1 ล้านโดสต่อวัน ในอัตราดังกล่าวจะใช้เวลาอีก 5 เดือนสำหรับบรรลุเป้า 75% ของประชากรทั้งหมด
Photo by ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP