ยอดตายโควิดลด 95% หลังเมืองในบราซิลฉีดวัคซีนของซิโนแวคไปแล้ว 3 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด
เมื่อวันที 2 มิ.ย. สำนักข่าวเอพีรายงานว่าขณะนี้ในเมืองเมืองเซร์รานา (Serrana) รัฐเซาเปาลู ประเทศบราซิล มีผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในขั้นอาการหนักเพียงรายเดียวจากประชากรทั้งหมดเกือบ 46,000 คน หลังจากที่ได้ฉีดวัคซีนของซิโนแวค (Sinovac) ให้แก่ประชากรในเมืองไปแล้ว 75% ซึ่งพบว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีกว่าผลการทดลองทางคลินิก
โดย 3 ใน 4 หรือ 75% ของประชากรทั้งหมดได้รับวัคซีนดังกล่าวครบ 2 เข็มแล้ว แต่หากนับเฉพาะผู้ใหญ่อัตราดังกล่าวจะสูงถึง 95% ซึ่งภายใน 5 สัปดาห์หลังจากที่ระดมฉีดวัคซีนพบว่าอัตราการเสียชีวิตลดลง 95% อัตราการป่วยหนักและการรักษาในโรงพยาบาลลดลง 86% และอัตราการติดเชื้อแบบมีอาการลดลง 80%
ขณะที่ผลข้างเคียงรุนแรงจากวัคซีนและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เป็นศูนย์ในระยะเวลา 14 วัน หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2
นอกจากนี้ ริการ์โด ปาลาซิออส ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยของสถาบันบูตันตันผู้ทำการทดลองควบคุมการแพร่ระบาดในครั้งนี้ที่มีชื่อว่า "โปรเจกต์ เอส" เผยว่าวัคซีนของซิโนแวคยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดสายพันธุ์ P.1 หรือแกมมา ที่พบครั้งแรกในบราซิลอีกด้วย
ทั้งนี้ ผลการทดลองควบคุมการแพร่ระบาดในครั้งนี้ชี้ว่าเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในระดับหนึ่งแม้ประชาชนยังฉีดวัคซีนไม่ครบทุกคน เนื่องจากมีการหมุนเวียนของไวรัสลดลงส่งผลให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนได้รับการป้องกันไปด้วย อย่างไรก็ตามการศึกษาดังกล่าวยังไม่ได้รับการตรวจสอบยืนยันจากนักวิชาการอื่นๆ
ขณะที่เดนิส การ์เร็ตต์ รองประธานสถาบันวัคซีนซาบินซึ่งสนับสนุนการเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนทั่วโลกกล่าวว่าผลลัพธ์ของวัคซีนซิโนแวคครั้งนี้เป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
แต่ยังคงมีคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบและจำเป็นต้องได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างเหมาะสม รวมถึงการที่ผู้ได้รับวัคซีนบางคนไม่เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันด้วย
Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP