วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในเมียนมาจากการรัฐประหารจะส่งผลให้มีประชาชนอดอยากราว 3.4 ล้านคนภายใน 6 เดือนข้างหน้า
โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติเตือนว่าอาจมีชาวเมียนมามากถึง 3.4 ล้านคนโดยเฉพาะในใจกลางเมืองจะประสบปัญหาอดอยากภายใน 6 เดือนข้างหน้าสืบเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหารตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา
โดยสตีเฟน แอนเดอร์สัน ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกประจำเมียนมาระบุว่าจะมีประชาชนอีกจำนวนมากหลังจากนี้ที่ต้องตกงานและไม่สามารถซื้ออาหารได้ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากนี้
ข้อมูลจากโครงการอาหารโลกชี้ให้เห็นว่าราคาข้าวเฉลี่ยในประเทศสูงขึ้น 5% ตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่ราคาน้ำมันปรุงอาหารสูงขึ้นถึง 18% นับตั้งแต่เดือนก.พ. และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นประมาณ 30% ทั่วประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐบริเวณชายแดนเช่นในบางเมืองของรัฐคะฉิ่นมีราคาข้าวสูงขึ้นถึง 43% และราคาน้ำมันสูงขึ้น 32%
ทั้งนี้ โครงการอาหารโลกประเมินว่าจะมีชาวเมียนมาต้องการความช่วยเหลือมากขึ้นราว 3.3 ล้านคน และต้องการเงินช่วยเหลือถึง 106 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยโครงการอาหารโลกจะเริ่มให้การช่วยเหลือใน 10 เขตที่ยากจนที่สุดในย่างกุ้งเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและมีความเสี่ยงมากที่สุด อย่างไรก็ตามจะติดตามสถานการณ์ในเมืองอื่นๆ ของเมียนมาและพร้อมให้การช่วยเหลือแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบรวมถึงผู้อพยพอื่นๆ หากจำเป็น
"เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมเราจึงต้องยื่นมือเข้าไป เราเชื่อมั่นใจประชาคมระหว่างประเทศที่จะยืนหยัดข้างประชาชนชาวเมียนมาต่อไป" แอนเดอร์สันกล่าว
Photo by Handout / DAWEI WATCH / AFP