ทหารเมียนมาไม่น้อยรับไม่ได้ที่กองทัพฆ่าประชาชน รับอยากหนีทัพแต่ห่วงครอบครัวที่อยู่ในค่าย

สำนักข่าว Myanmar Now รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในที่ทราบสถานการณ์ว่า  มีทหารเมียนมาจำนวนหนึ่งที่รู้สึกไม่สบายใจที่กองทัพใช้กำลังปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่กล้าหนีออกมา เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวที่อยู่ในค่ายทหาร

ร้อยเอก ลินเต็ตอ่อง จากกองทหารราบที่ 528 ปฏิบัติหน้าที่ในรัฐฉานเผยกับ Myanmar Now ว่า เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ทหาร 4 นายรวมทั้งนายทหารระดับนายร้อยจากกองพลทหารราบที่ 77 ซึ่งรับหน้าที่ปราบปรามผู้ประท้วงในเมืองย่างกุ้ง ได้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวอารยะขัดขืน (CDM) กับชาวเมียนมา และมีอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างหลบหนี ขณะที่อีกส่วนหนึ่งต้องการหลบหนีหากครอบครัวไม่ถูกกองทัพควบคุมไม่ต่างจากการถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในค่ายทหาร

“นี่คือสถานการณ์ตอนนี้ คนที่อยู่ในค่ายทหารถูกลักพาตัว พวกเขาใช้คนในครอบครัวของทหารเป็นตัวประกันในการควบคุมทหารเหล่านี้ หากทหารคนใดต้องการหลบหนีก็ต้องพาครอบครัวไปด้วย” ลินเต็ตอ่องซึ่งเข้าร่วม CDM กล่าว

ลินเต็ตอ่องซึ่งขณะนี้หนีไปหลบอยู่ในพื้นที่ของกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยเผยอีกว่า ทหารหลายนายทราบดีว่าการจับกุม การทรมาน และการสังหารประชาชนเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่พวกเขาก็ต้องทำตามคำสั่งเพราะห่วงสวัสดิภาพของครอบครัว

ลินเต็ตอ่องคาดว่าทหารราว 75% ต้องการหนีกองทัพหากครอบครัวของพวกเขาได้รับการปกป้อง

ภรรยาของทหารนายหนึ่งที่ประจำการในเมืองมัณฑะเลย์เผยว่า ก่อนเกิดรัฐประหารครอบครัวทหารที่อาศัยอยู่ในค่ายทหารถูกจับตามองความเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวด หลังรัฐประหารยิ่งเข้มงวดขึ้นอีก

ส่วนสามีของเธอตั้งแต่มีทหารหลบหนีก็ไม่สามารถออกมานอกค่ายทหารเลย และต้องรายงานตัววันละ 2 ครั้งเช้าและกลางคืน

อย่างไรก็ดี ยังมีทหารอีกจำนวนไม่น้อยที่เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยไม่มีข้อแม้ เพราะทหารเหล่านี้ถูกจำกัดให้รับรู้เฉพาะข่าวสารจากสื่อที่กองทัพควบคุมอย่างสถานีโทรทัศน์ Myawaddy ทั้งยังไม่ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต จึงถูกปิดหูปิดตา

นอกจากนี้ นายพล ซอวิน ผู้นำหมายเลขสองของเมียนมายังเตือนทหารและครอบครัวว่า ทหารและครอบครัวควรจะรู้ว่าที่ใดควรไป เรื่องใดควรพูดหรือไม่ควรพูด เรื่องใดควรทำ และควรพูดคุยกับคนที่ควรพูดคุยด้วยเท่านั้น

Photo by STR / AFP