นักวิเคราะห์คาดสถานการณ์เลวร้ายสุดสำหรับเศรษฐกิจเมียนมาคือ การเติบโตหดตัว 20%
ธนาคารโลก (World Bank) เผยรายงานคาดการณ์ว่า ปีนี้เศรษฐกิจเมียนมาอาจหดตัวถึง 10% เนื่องจากการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียที่เศรษฐกิจของหลายประเทศกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของ Covid-19
อาทิตยา มัตตู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียของธนาคารโลกเผยว่า “เรากังวลอย่างยิ่ง การเติบโตติดลบ 10% สำหรับประเทศยากจนสำหรับผมคือหายนะ และหากคำนวณต้นทุนอื่นๆ ซึ่งมีผลกระทบต่อการเติบโตในระยะยาวเข้าไปด้วยแล้ว ผมว่าสถานการณ์มันน่าสิ้นหวังมาก”
ขณะที่นักวิเคราะห์รายื่นมองว่าสถานการณ์จะแย่ยิ่งกว่าที่ธนาคารโลกคาดไว้ เช่น ศูนย์วิจัย Fitch Solutions คาดว่าเศรษฐกิจเมียนมาจะเติบโตติดลบ 20% ในปีงบประมาณ 2020-2021 โดยระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงที่เพิ่มขึ้น บวกกับความไม่สงบในบ้านเมืองหมายความว่า รายจ่ายที่จะก่อให้เกิดจีดีพีมีแนวโน้มจะล่มสลาย และในขณะนี้ยังไม่สามารถมองในแง่ดีได้เลย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ความวุ่นวายทางการเมืองเป็นตัวฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจเมียนมา ไม่ว่าจะเป็น นักลงทุนต่างประเทศพากันถอนตัว บวกกับชาติตะวันตกพากันคว่ำบาตร อีกทั้งการทำอารยะขัดขืนด้วยการไม่ซื้อสินค้าจากธุรกิจของกองทัพยังทำให้เศรษฐกิจซบเซา
นอกจากนี้ ธุรกิจการเดินเรือขนส่งตู้สินค้ายังยุติการให้บริการเนื่องจากพนักงานขับรถบบรทุกหยุดงานประท้วง ส่งผลให้ตู้สินค้าติดอยู่ที่ท่าเรือ ไปจนถึงการจำกัดการถอนเงินซึ่งทำให้ธุรกิจหลายแห่งไม่สามารถจ่ายค่าจ้างพนักงาน การตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เป็นการตัดช่องทางการค้าขายออนไลน์ ล้วนเป็นปัจจัยให้เศรษฐกิจชะลอตัว
Photo by STR / AFP