รัฐบาลสหรัฐประกาศยกระดับป้องกันการเหยียดเอเชียหลังอาชญากรรมจากความเกลียดชังพุ่งถึง 149%
สำนักงานตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) กำลังเร่งตามชายผิวสีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาที่ทำร้ายร่างกายหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียวัย 65 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมาในแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก โดยภาพจากกล้องวงจรผิดพบว่าชายคนดังกล่าวเตะหญิงชาวเอเชียจนร่วงลงไปกองกับพื้นพร้อมด่าทอและเหยียบซ้ำอีกหลายครั้ง
ขณะที่ NYPD ระบุว่ากำลังเร่งสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวและตามล่าตัวชายผู้ก่อเหตุพร้อมขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแส ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหน่วยงานด้านการสืบสวนและป้องกันอาชญากรรมจากความเกลียดชังพบคดีลักษณะนี้ราว 33 คดีแล้ว พร้อมระบุว่าได้สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในชุมชนเอเชียมากขึ้น
การก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติกำลังเป็นปัญหาใหญ่และทวีความรุนแรงมากขึ้นในสหรัฐ โดยองค์กร STOP AAPI Hate ระบุว่าชาวเอเชียในสหรัฐตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงจากความเกลียดชังราว 3,795 ครั้งภายในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปีที่ผ่านมา ขณะที่ศูนย์ศึกษาความเกลียดชังและลัทธิหัวรุนแรงระบุว่าอาชญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชียพุ่งสูงถึง 149% ในปี 2020
ด้านรัฐบาลสหรัฐก็ได้ประกาศดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นโดยระบุว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณกรณีพิเศษเพื่อจัดการกับปัญหา และจัดตั้งคณะกรรมการ "COVID-19 Equity Task Force" เพื่อป้องกันและยุติความหวาดระแวงต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
ขณะที่กระทรวงยุติธรรมก็ประกาศจะดำเนินการเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมจากความเกลียดชังตลอดจนการรวบรวมข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลอาชญากรรมจากความเกลียดชังของประเทศมีความโปร่งใส และจะมีการจัดฝึกอบรมด้านสิทธิพลเมืองทั่วประเทศเพื่อส่งเสริมการใช้กฎหมายของรัฐและท้องถิ่นเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง
Photo by Kena Betancur / AFP