โจ ไบเดนร่วมประณามการใช้ความรุนแรงของกองทัพเมียนมา "อุกอาจอย่างยิ่ง" หลังสังหารประชาชนนับร้อยในวันเดียว
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประณามการปรามปราบอย่าง "อุกอาจ" ของรัฐบาลทหารเมียนมาซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 459 คนนับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร โดยในวันกองทัพเมียนมาเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมานับเป็นวันที่นองเลือดที่สุดซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 107 คนรวมทั้งเด็ก 7 คนตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ
ผู้เสียชีวิตหนึ่งในนั้นคือ Aye Ko คุณพ่อลูก 4 วัย 40 ปีในเมืองมัณฑะเลย์ซึ่งถูกยิงบริเวณหน้าอกก่อนที่ทหารจะลากร่างของเขาโยนลงไปในกองเพลิง
โดยไบเดนระบุว่า "เป็นการกระทำที่อุกอาจอย่างยิ่ง และมีการสังหารประชาชนโดยเกินความจำเป็น"
ขณะที่โจเซป โบร์เรลล์หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันกองทัพเมียนมาเป็นวันแห่งความสยดสยองและความอัปยศ
ทูตขององค์การสหประชาชาติ อลิซ ไวริมู เอ็นเดอริตู และมิเชล บาเชเล ร่วมแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าวเช่นกันโดยระบุว่าเป็น "การกระทำที่น่าอับอาย ขี้ขลาด และโหดเหี้ยมของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งกราดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งยังไม่ไว้ชีวิตเด็กเล็ก การกระทำเหล่านี้ต้องหยุดลงทันที"
อย่างไรก็ตามสถานีโทรทัศน์เมียวดีของรัฐบาลเมียนมารายงานว่าเมื่อวันที่ 27 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตเพียง 45 คนเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมโดยมีเหตุจำเป็นเนื่องจากผู้ชุมนุมใช้อาวุธปืนและระเบิดโจมตีเจ้าหน้าที่
Photo by Alex Wong/Getty Images/AFP