WORLD NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

16 มีนาคม 2564 : 19:27 น.

หลายประเทศเริ่มระงับการใช้วัคซีนต้าน Covid-19 จากแอสตราเซเนกาหลังพบภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

ขณะนี้พลเมืองโลกนับล้านคนได้รับวัคซีนต้าน Covid-19 จากแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) หลังจากผลการทดลองในคนพบว่าปลอดภัย แต่เมื่อเร็วๆ นี้กลับพบชาวยุโรปที่ได้รับวัคซีนมีปัญหาลิ่มเลือดอุดตันและเลือดออกผิดปกติ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน แม้ว่าจะยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างอาการของผู้ป่วยกับวัควีนของแอสตราเซเนกาก็ตาม

รายงานนี้ส่งผลให้หลายประเทศระงับการใช้วัคซีนไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วนระหว่างรอผลการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนจนกว่าจะมีผลสรุปชัดเจน ขณะที่ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีนให้กับนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปแล้ว แล้วคนไทยที่จะต้องฉีดต้องกังวลไหม?

เกิดปัญหาอะไรกับวัคซีนจากแอสตราเซเนกา

ก่อนหน้านี้ชาวนอร์เวย์ซึ่งอายุต่ำกว่า 50 ปี 4 คนฉีดวัคซีนจากแอสตราเซเกาแล้วมีปัญหาลิ่มเลือดอุดตันหรือเลือดออกผิดปกติ และมีเกล็ดเลือดซึ่งจะช่วยให้เลือดแข็งตัวต่ำ และในจำนวนนี้ 2 คนเสียชีวิตจากภาวะเลือดออกในสมอง อีก 2 คนต้องเข้าโรงพยาบาล ต่อมาการเสียชีวิตของหญิงชาวเดนมาร์กวัย 60 ปี และชายชาวอิตาลีวัย 57 ปีทำให้หลายประเทศตัดสินใจระงับการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา แม้ว่าจะยังไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่

วัคซีนทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ไหม

แดเนียล แซมอน ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อความปลอดภัยวัคซีนแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์เผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่าวัคซีนก่อให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน ทั้งนี้ ลิ่มเลือดอุดตันพบได้ตามปกติในประชาชนทั่วไป และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตั้งข้อสังเกตว่าภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่พบให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญและไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

ส่วนมาร์ก สลิฟกา นักวิจัยวัคซีนจากมหาวิทยาลัย Oregon Health and Science University กล่าวว่า การเกิดลิ่มเลือดอุดตันมีหลายสาเหตุ หลายปัจจัยเสี่ยง และมีหลายคนที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และคนเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีน

ด้าน สเตฟาน มอลล์ นักโลหิตวิทยาและศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนายกตัวอย่างว่า ชาวอเมริกันมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดหรือเท้าหรือส่วนอื่นๆ ราว 300,000-600,000 คนต่อปี หรือราว 1,000-2,000 คนต่อวัน สหรัฐมีประชากรราว 253 ล้านคน และหากชาวอเมริกันฉีดวัคซีนวันละ 2.3 ล้านคน หมายความว่าประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 1% ได้รับวัคซีนในแต่ละวัน และเมื่อคำนวณต่อไปจะพบว่า ในจำนวนคนที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน 1,000-2,000 ต่อวัน มีเพียง 1% หรือ 10-20 คนต่อวันเท่านั้นที่เกิดขึ้นในผู้ที่ได้รับวัคซีนซึ่งเป็นอัตราปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

ข้อมูลที่มีอยู่ของแอสตราเซเนกาบอกอะไรเราบ้าง

เดวิด วอห์ล ผู้อำนวยการคลินิกวัคซีนแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาเผยว่า ยังไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนต้าน Covid-19 ตัวใดๆ ก่อให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันในการทดสอบทางคลินิกขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดี การทดลองกับการใช้จริงมีความแตกต่างกัน โดยการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาจริงในประเทศอังกฤษกับประชากร 9.7 ล้านคนเมื่อเดือนที่แล้วพบว่า ภาวะลิ่มเลือดอุดตันซึ่งเกิดขึ้นน้อยมากเกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาเท่าๆ กับวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) แต่พบภาวะเกล็ดเลือดต่ำผิดปกติในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกามากกว่าไฟเซอร์

ดังนั้น เมื่อเกิดข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนเมื่อนำมาใช้จริงกับคนกลุ่มใหญ่จึงต้องมีการตรวจสอบ แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

วัคซีนก่อให้เกิดภาวะเลือดออกผิดปกติอื่นๆ หรือไม่

วัคซีนอื่น โดยเฉพาะวัคซีนที่ฉีดให้เด็กเพื่อป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมันเชื่อมโยงกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำชั่วคราว ขณะที่มีรายงานภาวะเกล็ดเลือดต่ำในผู้ที่ได้รับวัคซีนของโมเดอร์นา (Moderna) ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) และแอสตราเซเนกาจำนวนเล็กน้อย โดยแพทย์ในรัฐฟลอริดา 1 รายเสียชีวิตจากภาวะเลือดออกในสมองเนื่องจากเกล็ดเลือดไม่เพิ่มขึ้น และอีกรายหนึ่งต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ทางการสหรัฐกำลังตรวจสอบทั้งสองเคสนี้

แอสตราเซเนกาดำเนินการอะไรบ้าง

เมื่อสัปดาห์ก่อนแอสตราเซเนกาชี้แจงครั้งแรกเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัควีนหลังจากออสเตรียระงับการใช้วัคซีนโดยระบุว่า ยังไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง ต่อมาหลังจากเดนมาร์กระงับวัคซีนอีกราย แอสตราเซเนกาออกแถลงการณ์ว่า จากข้อมูลความปลอดภัยของบริษัทซึ่งมีกว่า 10 ล้านรายการ ไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

หลังจากหลายประเทศเริ่มระงับการใช้ แอสตราเซเนกาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดยระบุตัวเลขผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีน และตัวเลขผู้ที่ได้รับวัคซีนในขั้นตอนการทดลองทางคลินิก และแคมเปญการสร้างภูมิคุ้มกันในยุโรปที่ชัดเจนขึ้น

และล่าสุด ตัวแทนของแอสตราเซเนกาเผยว่าบริษัทกำลังร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป รวมทั้งกำลังรอผลการประเมินจากทั้งสององค์กร

ภาพ: Thailand Government House

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ