WORLD NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

29 มกราคม 2564 : 12:33 น.

รัฐบาลโปแลนด์ประกาศใช้กฎหมายห้ามทำแท้งในกรณีที่ตัวอ่อนมีความผิดปกติ ส่งผลให้การประท้วงที่ยืดเยื้อยาวนานถูกยกระดับขึ้นไปอีก

หลังจากที่รัฐบาลโปแลนด์บังคับใช้กฎหมาย "ห้ามทำแท้งในกรณีที่ตัวอ่อนมีความผิดปกติโดยกำเนิด" เมื่อคืนวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้ประชาชนรวมถึงกลุ่มนักเคลื่อนไหวสนับสนุนสิทธิสตรีต้องประกาศสงครามและยืนกรานว่าจะยกระดับการประท้วงขึ้นไปอีก โดยการประท้วงในกรณีดังกล่าวยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์นับตั้งแต่ที่ยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย

ในคืนวันที่ 28 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ประชาชนจำนวนมากรวมตัวกันในกรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ รวมถึงเมืองอื่นๆ อีกประมาณ 50 แห่งทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ประท้วงมองว่าการบังคับใช้กฎหมายครั้งนี้เป็นความพยายามที่จะลิดรอนสิทธิมนุษยชน และเป็นการ "ก้าวถอยหลัง"

อีกทั้งยังมองว่ากฎหมายดังกล่าวไม่ได้ป้องกันการทำแท้ง แต่เป็นการบังคับให้ผู้หญิงต้องให้กำเนิดลูกที่พิการหรือเป็นดาวน์ซินโดรม

ตามรายงานระบุว่าในแต่ละปีมีผู้หญิงทำแท้งถูกกฎหมายไม่ถึง 2,000 คน และประเมินว่าผู้หญิงอีก 200,000 คนเลือกทำแท้งเถื่อนหรือเดินทางไปทำแท้งต่างประเทศ

การเดินขบวนเริ่มตึงเครียดขึ้นในช่วงดึก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้กลุ่มผู้ประท้วงแสดงบัตรประจำตัวประชาชนก่อนออกจากพื้นที่ และมีรายงานการจับกุมหลายครั้งด้วยกัน

ทั้งนี้ มีการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวครั้งแรกในเดือนตุลาคม ซึ่งส่งผลให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโปแลนด์นับตั้งแต่การล่มสายของคอมมิวนิสต์ในปี 1989 และรัฐบาลต้องชะลอการดำเนินการตามคำตัดสินเป็นเวลาหลายเดือนหลังเผชิญกับการประท้วง แต่สุดท้ายก็บังคับใช้กฎหมายอย่างกระทันหันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

โดยตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนุญระบุว่า "ชีวิตของมนุษย์มีค่าในทุกช่วงของวิวัฒนาการ และในฐานะที่มีค่านั้นจึงเป็นที่มาของกฎหมายและควรได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย"

อย่างไรก็ตามการทำแท้งจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อในกรณีถูกข่มขืน และกรณีผู้ตั้งครรภ์มีปัญหาด้านสุขภาพซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต 

Photo by Wojtek RADWANSKI / AFP

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ