ทางการฮ่องกงประกาศยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์เขตเกาลูนแล้ว หลังรัฐบาลลุยตรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่กว่า 7,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในย่านที่มีตลาดกลางคืน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการฮ่องกงได้ประกาศยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์เขตเกาลูนแล้วในวันที่ 25 ม.ค. 64 หลังจากรัฐบาลเสร็จสิ้นการตรวจหาโรคโควิด-19 กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 7,000 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียง 13 ราย ซึ่งผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในย่านเหยาหม่าเต๋และจอร์แดน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีตลาดกลางคืน
การตรวจเชื้อในครั้งนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 3,000 ราย จาก 16 กรม โดยใช้ช่วงเวลาในการตรวจทั้งหมด 48 ชั่วโมง
แถลงการณ์จากรัฐบาลระบุว่า "รัฐบาลฮ่องกงหวังว่า ความไม่สะดวกสบายชั่วคราวนี้จะเข้ามาตัดวงจรการแพร่ระบาดในพื้นที่โดยสิ้นเชิง และคลายความกังวลและความหวาดกลัวของผู้อยู่อาศัย"
ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รัฐบาลฮ่องกงได้สั่งล็อกดาวน์เขตเกาลูน และบังคับให้ประชาชน 10,000 คนในเขตดังกล่าวต้องอยู่ที่บ้านจนกว่าจะได้รับการตรวจและรู้ผลการตรวจเชื้อโควิด-19
สำหรับเหตุผลที่พื้นที่ดังกล่าวถูกล็อกดาวน์เป็นเพราะพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมกัน 162 รายนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทางการฮ่องกงได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการดำเนินการในวันเสาร์นับเป็นการล็อกดาวน์ครั้งแรกในฮ่องกง
นางโซเฟีย ชาน รมว.สาธารณสุขของฮ่องกงเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า ความเสี่ยงของการติดเชื้อในชุมชนอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยหลังจากการประเมินแล้ว เราคิดว่า จำเป็นที่จะต้องประกาศล็อกดาวน์และบังคับตรวจเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการควบคุมการแพร่ระบาด
ขณะที่ นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เปิดเผยว่า รัฐบาลอาจมีการประกาศล็อกดาวน์พร้อมรุกตรวจหาโรคในลักษณะนี้อีกหากจำเป็น โดยรัฐบาลจะปรับปรุงวิธีการสื่อสารแผนงานให้ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงเวลาประกาศคำสั่ง