บรรดานักลงทุนพากันทิ้งหุ้นอาลีบาบาหลังอาณาจักร แจ็ก หม่า ถูกทางการจีนไล่ตรวจสอบการผูกขาดการค้า
รายงานของ Citi Private Bank ในเครือซิตี กรุ๊ปที่เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาระบุว่า บรรดานักลงทุนกระเป๋าหนักที่เป็นลูกค้าของธนาคารพากันเทขายหรือลดการถือหุ้นของบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) หลังจากมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าทางการจีนกำลังตรวจสอบอาลีบาบาในข้อหาผูกขาดทางการค้า
รายงานยังระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นจีนสามารถดึงเงินลงทุนจากนักลงทุนกระเป๋าหนักที่เป็นลูกค้าของซิตี กรุ๊ปได้จำนวนมหาศาลในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว
อาลีบาบา รวมทั้งคู่แข่งอย่างเท็นเซนต์ (Tencent) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและเป็นสัญลักษณ์ทางความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของจีน กำลังถูกทางการจีนกดดันอย่างหนัก หลังจากบริการของทั้งสองบริษัทมีผู้ใช้งานนับร้อยล้านคน ทั้งยังมีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันของชาวจีนแทบจะทุกด้าน
คำสั่งระงับการเสนอขายหุ้นแก่บุคคลทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของแอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) ในเครือของอาลีบาบา ซึ่งหากสำเร็จจะมีมูลค่า 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังส่งผลให้มูลค่าของตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) ของอาลีบาบาในสหรัฐลดลงกว่า 1 ใน 5 นับตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
สัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารแห่งชาติจีนเผยว่า แอนท กรุ๊ปกำลังดำเนินจัดตารางเวลาเพื่อยกเครื่องธุรกิจ ซึ่งเป็นการย้ำว่าทางการจีนต้องการเข้ามาควบคุมอาณาจักรธุรกิจของ แจ็ก หม่า
ทั้งนี้ จากข้อมูลการจัดอันดับมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์กพบว่า จากทรัพย์สินทั้งหมดของหม่าที่มีมูลค่า 52,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นรายได้จากแอนท์ กรุ๊ปมากกว่า 1 ใน 4
AFP PHOTO / FABRICE COFFRINI