ทางการนอร์เวย์ยืนยันความมั่นใจกรณีคนชราเสียชีวิต 33 รายหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ว่าไม่พบหลักฐานว่ามีความเกี่ยวข้องกัน
คามิลลา สโตลเทนเบิร์ก ผู้อำนวยการสถาบันสาธารณสุขนอร์เวย์เผยว่า จากการตรวจสอบไม่พบหลักฐานความเกี่ยวข้องกันระหว่างการเสียชีวิตของผู้สูงอายุหลังได้รับวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ร่วมกับบริษัท ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) และวัคซีนดังกล่าว
“จาก 13 เคสที่วิเคราะห์โดยละเอียดจนถึงขณะนี้ ล้วนเป็นผู้สูงอายุที่มีความเปราะบางและมีโรคประจำตัวร้ายแรงอยู่แล้ว และที่ต้องไม่ลืมคือบ้านพักผู้สูงอายุจะมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 45 รายอยู่แล้วในแต่ละวัน ดังนั้นตัวเลขนี้จึงไม่ได้บ่งชี้ถึงความผิดปกติ หรือเกี่ยวข้องกับวัคซีน” สโตลเทนเบิร์กเผย
อย่างไรก็ดี หลังข่าวการเสียชีวิตทางการนอร์เวย์เน้นย้ำให้แพทย์พิจารณาเป็นรายบุคคลว่าจะฉีดวัคซีนต้าน Covid-19 ให้กับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางหรือมีอาการป่วยรุนแรงหรือไม่ เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติกันในประเทศอื่น เนื่องจากอาการเดิมของผู้ป่วยอาจหนักมากจนอาจมีอาการแย่ลงอีกจากผลข้างเคียงตามปกติของวัคซีนเนื่องจากร่างกายตอบสนองและสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา
ด้านไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทางบริษัทจะร่วมมือกับสำนักงานยานอร์เวย์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
สัปดาห์ที่แล้วสำนักงานยานอร์เวย์ระบุว่า ผลข้างเคียงตามปกติของวัคซีนชนิด RNA เช่น เป็นไข้ คลื่นไส้ อาจทำให้อาการเดิมของผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางแย่ลง
ทั้งนี้ เพื่อนบ้านของนอร์เวย์อย่าง เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ และสวีเดน ก็พบการเวียชีวิตหลังฉีดวัคซีนเช่นกัน แต่การเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับวัควีนที่ได้รับ
Photo by Fredrik Hagen / NTB / AFP