เศรษฐกิจจึนชะลอตัวสุดในรอบกว่า 40 ปีแม้จะฟื้นตัวขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
เอเอฟพีรายงานว่าเศรษฐกิจของจีนในปีที่แล้วขยายตัวร้อยละ 2.3 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่จีนเริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในทศวรรษที่ 1970 แม้จะฟื้นตัวขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้วก็ตาม
โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่าปีที่แล้วเป็น "สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและซับซ้อนทั้งในประเทศและต่างประเทศ" ซึ่งโรคระบาดดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมาก
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2019 คิดเป็นร้อยละ 6.1
สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.8% ซึ่งชะลอตัวลงจากปีก่อน และยอดการค้าปลีกซึ่งฟื้นตัวช้ากว่าภาคอุตสาหกรรมหดตัวลง 3.9% ตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ โควิด-19 เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในปลายปี 2019 ส่งผลให้เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกต้องชะลอตัวลงจากมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสอื่นๆ
อย่างไรก็ตามคาดว่าจีนจะเป็นประเทศเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกเพียงแห่งเดียวที่มีการเติบโตในเชิงบวกในปี 2020 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรค
โดยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2020 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 6.5% ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2
ด้านรอยเตอร์สรายงานว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่ 4 เกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ และการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เร็วกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ 6.1%
โดยในปี 2020 GDP ในประเทศจีนเติบโต 2.3% แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งได้รับแรงหนุนจากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างน่าประหลาดใจ
Photo by Nicolas ASFOURI / AFP