ไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่มีใครไม่ติด เทรนด์นี้ตามมาด้วยดราม่าเรื่องราคาที่อาจจะแพงเกินไปสำหรับคนทั่วไป
แทรนด์แฟชั่นวัยรุ่นที่กำลังเป็นที่พูดถึงในบ้านเราตอนนี้ คงไม่มีเทรนด์ไหนจะดังไปกว่าการนำดอกไม้ยิ้มแฉ่งสีรุ้ง หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ดอกมุระคะมิ มาประดับเสื้อผ้าหรือกระเป๋า โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นแถวสยาม ไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่มีใครไม่ติด เทรนด์นี้ตามมาด้วยดราม่าเรื่องราคาซึ่งกระแสแบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน ฝั่งหนึ่งบอกว่า แพงไปสำหรับเด็กวัยเรียน ส่วนอีกฝั่งบอกว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล กระเป๋าเงินใครกระเป๋าเงินมัน
วันนี้ M2F จะพาไปดูที่มาที่ไปของดอกไม้ราคาหลักพันนี้กัน เจ้าดอกไม้สีรุ้งนี้เป็นผลงานของ ทะคะชิ มุระคะมิ ศิลปินชื่อดังที่ได้รับยกย่องว่าเป็นศิลปินแนวป๊อประดับเทพของญี่ปุ่น บางคนก็เปรียบเทียบว่าเขาเป็น แอนดี้ วอร์ฮอล เจ้าพ่อป๊อปอาร์ตของสหรัฐ
ย้อนไปก่อนที่จะมีดอกไม้ยิ้มแฉ่งออกมานี้ มุระคะมิเผยว่า ตอนแรกเขาไม่ชอบดอกไม้ แต่เมื่อได้ไปเป็นครูสอนที่โรงเรียน ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป ทั้งกลิ่นและรูปร่างของดอกไม้ทำให้เขารู้สึกเหมือนไม่สบายตัว แต่เขาก็รู้สึกว่ามันน่ารักในเวลาเดียวกัน เพราะแต่ละดอกก็มีความรู้สึกและลักษณะเฉพาะของตัวเอง มุระคะมิยังบอกอีกว่า ดอกไม้ยิ้มแฉ่งพวกนี้สะท้อนถึงความลังเลในตัวเขาระหว่างความชอบและความเกลียด
ถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่าดอกไม้ยิ้มแฉ่งของมุระคะมิไม่ได้มีแต่รอยยิ้ม แต่ในแววตาพวกมันยังมีหยดน้ำตาซ่อนอยู่ด้วย มุระคะมิได้แรงบันดาลใจของน้ำตาจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนะงะซะกิเมื่อปี 1945 ที่ถือเป็นความเจ็บปวดของชาวญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ โดยที่ในยุคแรกๆ ดอกไม้จะแสดงอารมณ์ต่างๆ กันไป ทั้งหน้ายิ้มแต่ตาหลับ หรือดวงตาที่เบื่อหน่าย แตกต่างกันไปในแต่ละคอลเลคชั่น
ด้านประวัติส่วนตัวนั้น มุระคะมิจบการศึกษาปริญญาตรีและโทด้านวิจิตรศิลป์ รวมทั้งปริญญาเอกจากโรงเรียนวิจิตรศิลป์และดนตรีแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติโตเกียว ซึ่งเป็นที่ที่เจ้าตัวศึกษา นิฮอนงะ เทคนิคการวาดภาพของญี่ปุ่นที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยเมจิในยุคจักรวรรดิญี่ปุ่น
ผลงานส่วนใหญ่ของเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือการ์ตูน หรือมังงะของญี่ปุ่น โดยนำศิลปะตะวันตกและศิลปะแนวป๊อปอาร์ตของญี่ปุ่นมาผนวกรวมกัน งานของมุระคะมิส่วนใหญ่เป็นแบบแบนราบมิติเดียวคล้ายกับการออกแบบของวอร์ฮอล แต่ปรับเปลี่ยนให้มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง คือสีสันสดใส และยังแฝงความเป็นญี่ปุ่นไว้ในผลงาน
ด้วยความที่ผลงานของเขาเป็นที่นิยมในวงกว้าง ทำให้บรรดาแบรนด์แฟชั่นระดับโลกต่างก็อยากร่วมงานกับศิลปินวัย 56 ปีรายนี้ จนออกผลงานร่วมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หลุยส์ วิตตอง มาร์ค เจค็อบ ซูพรีม หรือกับศิลปินระดับโลกอย่าง คานเย เวสต์ ที่มุระคะมิออกแบบปกอัลบั้ม Kids See Ghosts ให้
เห็นดังเปรี้ยงแบบนี้ แต่ใครจะนึกถึงว่าผลงานของมุระคะมิเคยถูกเมินมาก่อน เจ้าตัวเผยว่า ครั้งแรกที่เปิดตัว MR.DOB หนึ่งในคาแรคเตอร์สุดฮิตที่หน้าตาคล้ายกับ มิกกี้เมาส์ เขากลับไม่ได้รับเสียงตอบรับอย่างที่คาดหวังไว้