'นาโต้'ยกรัฐเซียยังเป็นภัยคุกคามต่อยุโรปตะวันตกและสหรัฐต่อไปอีกหลายปีถึงแม้จีนจะอ่อนด้อยลงมากก็ตาม
รายงานด้านความมั่นคงระดับสูงขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ระบุว่า รัสเซียจะยังคงเป็นหนึ่งในภัยคุกคามหลักต่อนาโตในทศวรรษหน้า ถึงแม้ว่าพลังอำนาจจะอ่อนด้อยลงไปไม่น้อยแล้วก็ตาม
“ในขณะที่อำนาจของรัสเซียในด้านเศรษฐกิจและสังคมจะลดลง แต่ก็พิสูจน์ตัวเองว่ามีความสามารถในการรุกรานดินแดนและมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นภัยคุกคามหลักที่นาโตต้องเผชิญในทศวรรษหน้า” รายงานระบุ
“รัสเซียมีคลังแสงนิวเคลียร์ทางทหารที่ทรงพลังและแข็งแกร่งซึ่งก่อให้เกิดภัยคุกคามทั่วทั้งดินแดนของนาโต แต่จะรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านตะวันออก” รายงานกล่าว
ทั้งนี้ นาโตระงับความสัมพันธ์กับรัสเซียหลังจากผนวกไครเมียในปี 2014 ขณะที่รัสเซียมองว่าการขยายตัวไปทางตะวันออกของพันธมิตรนาโตเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ เช่น การที่สหรัฐพยายามย้่ายกำลังทหารจากเยอรมนีมาประจำการที่โปแลนด์ และโปแลนด์ก็กระตือรือร้นที่จะนำทหารสหรัฐเข้ามาประการเพื่อกันไม่ให้รัสเซียแผ่ขยายอำนาจเข้ามา
รายงานกล่าวว่าการรุกรานของรัสเซียอย่างต่อเนื่องในยูเครนและจอร์เจียนั้นมาพร้อมกับการสั่งสมกำลังทหารทางอากาศและทางเรือในและรอบๆ ทะเลแบเรนต์ ทะเลบอลติก และทะเลดำ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกานั้น รัสเซียใช้วิธีจ้างตัวแทนและบริษัททหารเอกชนในการตั้งฐานที่มั่น
นอกจากนี้อำนาจอธิปไตยของพันธมิตรนาโต้ยังถูกคุกคามโดยสงครามลูกผสมที่ขยายวงกว้างมากขึ้นของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ การลอบสังหาร และการวางยาพิษโดยรัฐโดยใช้อาวุธเคมีการบีบบังคับทางการเมืองและวิธีการอื่นๆ
ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้นาโตดำเนินการตาม “แนวทางแบบคู่ขนานโดยการยับยั้งและการเจรจา” เพื่อรับมือกับการการรุกรานรัสเซียโดยใช้ยุทธศาสตร์แบบดั้งเดิมและแบบลูกผสม พร้อมๆ กับที่นาโตต้องสนับสนุนการควบคุมอาวุธและการเจรจาเพื่อลดความเสี่ยง
รายงานดังกล่าวยังกระตุ้นให้นาโต “ มีบทบาทที่ใหญ่ขึ้นในการจัดระเบียบระหว่างประเทศ” โดยจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การระบาด และการก่อการร้ายในอนาคตโดยจับตามองภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากจีนและรัสเซีย
“นาโตต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของสภาพแวดล้อมเชิงกลยุทธ์ที่มีความจำเป็นมากขึ้นซึ่งเกิดจากการกลับมาของการเผชิญหน้าระหว่างเป็นระบบกับรัสเซียที่ก้าวร้าวอย่างต่อเนื่อง และการผงาดขึ้นของจีน”
รายงานดังกล่าวคือ “ NATO 2030: United for a New Era” ซึ่งนำเสนอต่อรัฐมนตรีต่างประเทศของนาโตและจะถูกส่งไปยังผู้นำนากลุ่มในการประชุมสุดยอดปี 2021 จัดทำขึ้นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่นำโดยอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ คือแมดเดอลีน แอลไบรท์
Photo by Yuri KADOBNOV / AFP