WORLD NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

30 กันยายน 2563 : 19:56 น.

โรงเรียนอนุบาลฟูจิ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นโรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุดในโลก

บนเวที TED talk เมื่อเมื่อปี 2014 ทาคาฮารุ เทซึกะ สถาปนิกชาวญี่ปุ่นได้เล่าถึงโรงเรียนอนุบาลฟูจิ (Fuji Kindergarten) ที่เขาไดสร้างขึ้นในมืองโตเกียวโดยกล่าวว่าเป็นโรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุดในโลก

การออกแบบของโรงเรียนมีแนวคิดว่าปล่อยให้เด็กเป็นเด็ก ให้พวกเขาได้เรียนรู้และมีแรงบันดาลใจ และเชื่อว่าเด็กๆ ไม่ควรถูกบังคับให้เรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่ปิดกั้น

เนื่องจากอาจขัดขวางความตั้งใจที่จะเรียนรู้ตามธรรมชาติของพวกเขา แต่ควรปล่อยให้เด็กวิ่งเล่นอย่างอิสระโดยไม่ได้รับการปกป้องมากเกินไป โดยทาคาฮารุ เทซึกะ ให้แนวคิด 3 ข้อในการออกแบบโรงเรียนนี้คือ การใช้วงกลม, ปราศจากขอบเขตและการควบคุม และอันตรายเล็กๆ น้อยๆ

การออกแบบด้วยแนวคิดที่แตกต่างไม่เหมือนโรงเรียนอนุบาลที่อื่นๆ ทำให้โรงเรียนอนุบาลฟูจิใช้เวลาไม่กี่ปีในการคว้ารางวัลมากมายทั้งในและต่างประเทศสำหรับการออกแบบที่สร้างสรรค์ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นโรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุดในโลก

พื้นที่แห่งจิตนาการและการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด

โรงเรียนไม่มีการกั้นห้องเรียน ทุกส่วนเปิดกว้างเป็นพื้นที่เดียวกันเพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกถูกปิดกั้นหรืออึดอัด ครูใหญ่ยังบอกว่าหากมีเด็กอยากออกไปวิ่งเล่นข้างนอก สามารถปล่อยพวกเขาไปได้เลย เพราะสุดท้ายเขาก็ต้องกลับมาที่เดิม เมื่อไม่มีการกั้นห้องจึงมีเสียงรบกวนอยู่ตลอดซึ่งเขาบอกว่าจริงๆ แล้วเด็กสามารถอยู่กับเสียงในสิ่งแวดล้อมได้ แสดงให้เห็นถึงสมาธิที่พวกเขามีในการเรียนถึงแม้จะมีเสียงรบกวน

อาคารถูกออกแบบให้เป็นวงกลมด้านบนดาดฟ้าเป็นพื้นที่ให้เด็กได้วิ่งเล่น เด็กๆ จะได้วิ่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบนลานกลางแจ้ง

เพดานห้องเรียนเป็นกระจก ให้เด็กห้องอื่นๆ สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเรียนอื่นได้จากชั้นบน

ก๊อกน้ำกลางแจ้งเพื่อให้เด็กได้มีพื้นที่รวมตัวกันพูดคุยและใช้น้ำร่วมกัน

ปล่อยให้เด็กได้ผจญภัย

โรงเรียนส่งเสริมให้เด็กได้ผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ ในทุกๆ วัน โดยมีการสร้างสไลเดอร์เพื่อให้เด็กสไลด์ลงมาจากลานวิ่งเล่นชั้นดาดฟ้า และมีเนินโคลนให้เด็กปีนก่อนขึ้นบันได รวมถึงราวกันชั้นบนอาคารสร้างให้มีช่องว่างเล็กน้อยสำหรับให้เด็กปีนป่ายนั่งห้อยขา อีกทั้งยังสร้างพื้นที่ให้เด็กปีนต้นไม้อย่างสนุกสนาน 

แม้ว่าโรงเรียนในญี่ปุ่นจะปล่อยให้เด็กๆ ได้ผจญภัยอย่างไม่ปิดกั้น แต่เด็กๆ ทุกคนมีความปลอดภัยภายใต้การดูแลของคุณครู แต่ในทางกลับกันโรงเรียนในประเทศไทยที่มีรั้วรอบขอบชิด ไม่ให้เด็กได้รับอันตรายจากบุคคลภายนอก แต่ก็ยังคงมีข่าวที่เด็กได้รับอันตรายจากบุคลากรภายในโรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง

ครูไม่บูลลี่ มีคุณภาพ 

ในประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นครูได้ แต่ทุกคนจะต้องผ่านการสอบและได้รับประกาศนียบัตรจึงจะประกอบวิชาชีพครูได้

วิชาชีพครูในญี่ปุ่นมีการคัดเลือกอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในขั้นตอนการจ้างงาน ผู้ที่จะประกอบวิชาชีพครูจะต้องทำการสอบและการประเมินผลโดยคณะกรรมการโรงเรียนอย่างเข้มงวด โดยครูต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาจากสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งข้อกำหนดจะแตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด

กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ควบคุมคุณภาพของครู และมีการกำหนดจำนวนหน่วยกิตการเรียนวิชาการศึกษาไว้สำหรับผู้ที่จะมีสิทธิ์เข้าสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรการเป็นครู 

โดยคุณครูอนุบาลในญี่ปุ่นจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำแนะนำและกระตุ้นให้เด็กคิดหรือแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ไม่ใช่ผู้ออกคำสั่งหรือสอนหนังสือเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ในทุกๆ ห้องเรียนจะต้องมีเปียโนและคุณครูอนุบาลเกือบทุกคนยังต้องเล่นเปียโนเป็นอีกด้วย

ความปลอดภัยในโรงเรียน

นอกจากจะสร้างพื้นที่ที่สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็กๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือความปลอดภัยของเด็กๆ ในโรงเรียน โดยโรงเรียนที่ญี่ปุ่นมีสมาคมผู้ปกครองที่แข็งแกร่ง ให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด

โดยในช่วงแรกของการเข้าโรงเรียน ผู้ปกครองสามารถเข้าไปช่วยเหลือดูแลลูกได้ตลอดเวลา และในแต่ละเดือนยังมีวันที่ให้ผู้ปกครองมาอยู่กับเด็กตลอดทั้งวันเสมือนเป็นครูผู้ช่วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมของโรงเรียนให้ผู้ปกครองได้เข้าร่วมอยู่เสมอ

อีกทั้งโรงเรียนที่ญี่ปุ่นบางแห่งจะจัดกิจกรรมให้เด็กวัยก่อนอนุบาลและผู้ปกครองได้เข้าเยี่ยมชมโรงเรียน และดูกิจกรรมของเด็กอนุบาล ก่อนที่จะนำเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองมั่นใจและไว้วางใจโรงเรียนนั้นๆ มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้โรงเรียนอนุบาลที่ญี่ปุ่นยังมีระบบโทรแจ้งข่าวด่วนจากโรงเรียน และมีการสอนให้เด็กรู้จักป้องกันตัวเองและระมัดระวังตัว เช่น การระวังตัวจากคนแปลกหน้า การข้ามถนน เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้นโรงเรียนอนุบาลญี่ปุ่นไม่มีการเรียนการสอนที่เป็นวิชาการ อ่านหนังสือ เขียนเขียนหนังสือ ตัวอักษรหรือตัวเลข แต่จะเน้นให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรม อย่างการร้อง การเต้น วาดรูป ระบายสี  เน้นการพัฒนาด้านร่างกายและจิตใจเป็นหลักทำให้เด็กๆ ไม่เครียด

ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเด็กมากๆ และการเสริมสร้างให้บรรยากาศในโรงเรียนเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ผ่อนคลาย และอบอุ่น ทำให้ช่วยลดความตึงเครียดของทั้งเด็กและคุณครู

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ