ความร้อนรุนแรงสุดในรอบ 70 ปีทำให้การจ่ายไฟฟ้าแคลิฟอร์เนียเป็นอัมพาตและยังต้องพบกับไฟป่าที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์
สัปดาห์นี้และที่ผ่านมารัฐแคลิฟอร์เนียกำลังถูกปกคลุมด้วยคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้โครงข่ายไฟฟ้าในภูมิภาคกลายเป็นอัมพาตเนื่องจากผลิตไม่พอใช้ความต้องการของผู้คนที่ต้องทนอุณภูมิที่ร้อนจัดแถมยังต้องพบกับไฟป่าที่รุนแรงมากในหลายพื้นที่
ช่วงต้นสัปดาห์นี้ รัฐแคลิฟอร์เนียได้ประกาศภาวะฉุกเฉินของโครงข่ายไฟฟ้า 2 ครั้งและดับไฟฟ้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตการณ์พลังงานในปี 2544 เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบไฟฟ้าทำงานหนักเกินไป โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เตือนว่าจะมีการขยายพื้นที่การดับไฟมากขึ้นในวันพุธ โดยคาดการณ์อุณภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส ในบางพื้นที่ของรัฐ
นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาชาวแคลิฟอร์เนียหลายล้านคนใช้ชีวิตอยู่ในความมืดโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ประชาชนต้องเลือกระหว่างการทนร้อนอยู่ที่บ้านหรือไปพักผ่อนหย่อนใจข้างนอกซึ่งมีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 สูง เนื่องจากสถานการณ์การระบาดในรัฐนี้ยังรุนแรงมาก
นอกจากคลื่นความร้อนรุนแรงและกระแสไฟฟ้าที่ไม่พอใช้แล้ว ชาวแคลิฟอร์เนียยังเจอกับไฟป่ารุนแรงลุกลามหลายพื้นที่ สาเหตุมาจากฟ้าผ่าแห้งหรือฟ้าผ่าที่ไม่ได้เกิดจากมรสุมบวกกับคลื่นความร้อนสูง ทำให้เกิดไฟป่า 155 ไฟภายในเวลา 24 ชั่วโมงและกำลังเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ
ภาพชุด - หนึ่งในพื้นที่ไฟป่ารุนแรงคือไฟป่าเฮนเนสซีย์ (Hennessey fire) ที่ยังคงโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องจนไม่สามารถควบคุมได้ใกล้ทะเลสาบเบอรีสซาในเมืองนาปา รัฐแคลิฟอร์เนียในวันที่ 18 สิงหาคม 2020
ไฟป่าเฮนเนสซีย์เริ่มต้นในช่วงหัวค่ำของวันที่ 17 สิงหาคมในเขตนาปา ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกไวน์ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ไฟขยายตัวถึง 2,700 เอเคอร์ในเวลา 24 ชั่วโมงและควบคุมได้ 0% หรือไม่ได้เลย และตอนนี้ไฟหลายสิบจุดกำลังลุกไหม้จนไม่สามารถควบคุมได้ทั่วแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ (ภาพโดย JOSH EDELSON / AFP)