ชายอิหร่านผู้เป็น"สปาย"ให้ซีไอเอและหน่วยมอสสาด ชี้เป้าสังหารนายพลโซเลมานี กำลังจะถูกลงโทษประหาร
เอเอฟพีรายงานว่า ศาลในกรุงเตหะรานเตรียมตัดสินโทษประหารชีวิต ชายอิหร่านผู้ทำหน้าที่เป็น"สายลับ"ชี้เป้าสังหารนายพลกอเซม โซเลมานี ให้กับหน่วยสืบราชการลับซีไอเอของสหรัฐ และหน่วยมอสสาดสายลับของอิสราเอล ในปฏิบัติการโดรนสังหารนายพลคนสำคัญของกองกำลังกูดส์ หน่วยรบพิเศษของกองทัพปฏิวัติอิหร่าน เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนายพลอิหร่านกับพวกกำลังเดินทางออกจากสนามบินแบกแดดของอิรัก
โฆษกศาลอิหร่านเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า ชายอิหร่านที่กำลังจะถูกตัดสินโทษประหารคือ นายมามูด โมซาวี มาจิด (Mahmoud Mousavi-Majd) ได้กระทำการความผิดเผยแพร่ข้อมูลด้านความมั่นคงและที่อยู่ความเคลื่อนไหวของนายพลโซเลมานีให้กับหน่วยสืบราชการลับฝ่ายศัตรู
"เขาส่งข้อความด้านความมั่นคงเกี่ยวกับกองทัพปฏิวัติอิหร่านให้กับหน่วยราชการลับอิสราเอล และหน่วยข่าวกรองสหรัฐ โดยเฉพาะข้อมูลของกองกำลังหน่วยกูดส์ ศาลปฏิวัติได้ตัดสินโทษประหารชีวิตในก่อนหน้านี้ และศาลฎีกาได้พิพากษายืนโทษประหารชีวิต เขากำลังจะถูกประหารในไม่ช้า" Gholamhossein Esmaili โฆษกศาลอิหร่านเผยกับสื่อท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี โฆษกศาลอิหร่านไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดว่า ข้อมูลที่นายโมซาวีส่งให้หน่วยราชการลับสหรัฐและอิสราเอลนั้นเกี่ยวข้องกับการสังหารนายพลโซเลมานีอย่างไร รวมถึงยังไม่มีข้อมูลว่านายมามูด โมซาวี มาจิด นั้นเป็นใครเหตุใดจึงเข้าถึงข้อมูลสำคัญด้านความมั่นคงได้
สำหรับ เหตุการณ์ปลิดชีพนายพลโซเลมานี ได้นำไปสู่การเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดสูงสุดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน หลังจากที่สหรัฐใช้ปฏิบัติการโดรนสังหารนายพลคนสำคัญ ก่อนที่ต่อมาอิหร่านจะตอบโต้ด้วยการยิงมิสไซล์โจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรักสองแห่ง แต่ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่ทว่าเหตุการณ์ที่นำมาสู่ความสูญเสียยิ่งกว่าคือเหตุที่ มิสไซล์ของอิหร่านเกิดความผิดพลาด โจมตีเข้ากับสายการบินยูเครนที่บินออกจากสนามบินเตหะรานในเวลาไล่เลี่ยกับการโจมตีฐานทัพสหรัฐ จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งลำ
แฟ้มภาพ