การติดเชื้อส่วนใหญ่ในจีนตอนนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแล้วนำเชื้อกลับมา หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขของไทย แถลงพบผู้ติดเชื้อ Co-Vid-19 เพิ่มอีก 32 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดพุ่งทะลุ 114 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เดินทางไปสนามมวย 9 คน ไปเที่ยวผับ 3 คน มาจากสนามบินสุวรรณภูมิ 3 คน เดินทางไปต่างประเทศ 7 คน ไปดูงานที่ประเทศสเปน 1 คน เป็นต้น และในจำนวนนี้เป็นต่างชาติ 2 คน
จะเห็นได้ว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่คือกลุ่มไปไปในที่ชุมนุม ทั้งๆ ที่อยู่ในสถานการณ์การระบาดซึ่งไม่ควรจะไปอยู่ในที่ชุมนุมชน
ขณะที่ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อในวันเดียวมากถึง 32 ราย ประเทศจีนกลับมีผู้ติดเชื้อลดลงเหลือเพียง 20 ราย และในจำนวนนี้ 16 รายเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ หมายความว่าตอนนี้ในจีนมีการติดเชื้อในบ้านตัวเองแค่ 4 รายเท่านั้นทั้งหมดอยู่ในเมืองอู่ฮั่น และจีนไม่พบผู้ติดเชื้อนอกมณฑลหูเป่ยมา 3 วันติดต่อกันแล้ว
ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่นำเข้ามาทำให้จีนมีอัตราการติดเชื้อทั้งประเทศสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ซึ่งหากไม่มีคนเหล่านี้จะทำให้ความพยายามควบคุมการระบาดในจีนยิ่งจะใกล้ความสำเร็จขึ้นไปอีก
ดังนั้นจีนจึงหันมาควบคุมการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศมากขึ้น ขณะนี้มีการติดเชื้อนำเข้ารวม 111 ราย ทำให้เกิดความกลัวว่ามาตรการของจีนในการกักกันไวรัสในประเทศอาจไม่ได้ผล เพราะการแพร่ระบาดซ้ำจากภายนอก หนึ่งในนั้นรวมถึงผู้ติดเชื้อมาจากประเทศไทยที่เดินทางไปยังจีน
อย่างไรก็ตาม ทางการจีนมุ่งมั่นที่จะควบคุมการระบาดจากนอกประเทศ และมีสัญญาณที่ดีแล้วว่าการระบาดภายในเริ่มหมดฤทธิ์ โดยในวันเสาร์เจ้าหน้าที่ในมณฑลหูเป่ยตัดสินใจคลายข้อห้ามมิให้ประชาชนออกจากที่พักอาศัยและหมู่บ้านที่ใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคม เพื่อให้ประชาชนได้ออกมาสัญจรเคลื่อนไหวอย่างอิสระ