ผู้ชุมนุมนุมตะโกนคำขวัญต่อต้านระบอบการปกครอง และเรียกร้องให้ผู้นำสูงสุดมีความละอายแก่ใจ หลังยิงเครื่องบินของยูเครนตก
ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐกำลังเฝ้าดูการประท้วงของอิหร่านอย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนว่าอิหร่านไม่ควรลงมือ "สังหารหมู่" อีกครั้ง หลังเกิดประท้วงเกิดขึ้นในอิหร่านเมื่อรัฐบาลยอมรับว่ายิงเครื่องบินโดยสารลง จนทำให้เกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดกระแสวิตกว่าอิหร่านอาจปราบปรามด้วยวิธีการรุนแรงเมื่อการประท้วงที่เกิดขึ้นปีที่แล้ว
สำนักข่าว AFP รายงานว่า หลังจากที่รัฐบาลยอมรับว่ายิงเครื่องบินของสายการบินยูเครนตก บรรดานักเรียนนักศึกษาในอิหร่านต่างออกมาชุมนุมเพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อผู้จากไปในช่วงเย็นวันเสาร์ แล้วมารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยอามีร์กาบีร์ ในกรุงเตหะราน แต่ตำรวจบุกเข้ามาสลายการชุมนุม เพราะมีผู้ชุมนุมนุมตะโกนคำขวัญ "ต่อต้านระบอบการปกครอง" และฉีกทำลายโปสเตอร์ของนายพลซูเลมานี ซึ่งการเสียชีวิตของเขาเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่างอิร่านกับสหรัฐ
สำนักข่าว CNN รายงานว่าพบวิดีโอโพสต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ผู้นำสูงสุด อยาตอลลลอฮ์ อาลี คามาเนอี ก้าวลงจากตำแหน่ง และเรียกร้องให้ดำเนินคดีผู้ที่รับผิดชอบในการยิงเครื่องบินตก ผู้ประท้วงบางคนร้องตะโกนนว่า "เผด็จการจงพินาศ"
ในขณะที่มีการชุมนุม ตำรวจอิหร่านได้จับกุมตัวเอกอัครราชทูตของอังกฤษไว้ โดยอ้างว่าทูตอังกฤษปลุกระดมนักศึกษา แม้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง แต่ทางการอิหร่านมีกำหนดเรียกตัวทูตไปซักถามอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 12 มกราคม
ด้านดอมินิก แรบ รับมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านแถลงว่า การจับกุมเอกอัครราชทูตของอังกฤษในกรุงเตหะราน เป็นการจับกุมตัวที่ไม่มีเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง ขณะที่หรัฐเรียกร้องอิหร่านให้ขอโทษที่กระทำการครั้งนี้
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์พยายามเข้าถึงชาวอิหร่านที่ไม่พอใจรัฐบาล โดยเขาเป็นทวีตข้อความทั้งภาษาอังกฤษและฟาร์ซีว่า เขายืนเคียงข้างชาวอิหร่านและกำลังเฝ้าดูการประท้วง
“สำหรับชาวอิหร่านที่กล้าหาญและต้องอดทนมานาน ผมยืนอยู่เคียงข้างคุณตั้งแต่ผมเริ่มต้นตำแหน่งประธานาธิบดี และรัฐบาลของผมจะยังคงยืนหยัดอยู่กับคุณต่อไป” ทรัมป์ทวีต
ทรัมป์ยังเสริมว่า “ไม่ทางที่จะมีการสังหารหมู่ผู้ประท้วงอย่างสันติอีกครั้งหรือการปิดอินเทอร์เน็ตอีกต่อไปโลกกำลังจับตามองอยู่” และบอกว่า “ เรากำลังติดตามการประท้วงของคุณอย่างใกล้ชิดและได้รับแรงบันดาลใจจากความกล้าหาญของคุณ”
ทรัมป์เอ่ยถึงการประท้วงตามท้องถนนของอิหร่านที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยองค์แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน และมีรายงานว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถูกตัดออกไปในหลายจังหวัดของอิหร่าน