ความเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวันต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่อาจกลายเป็นชนวนความขัดแย้งทางการทหาร
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ โจเซฟ วู รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวันให้ ตั้งข้อสังเกตว่า จีนอาจใช้ความขัดแย้งทางทหารกับไต้หวัน เพื่อเบี่ยงเบนแรงกดดันภายในประเทศหากเศรษฐกิจชะลอตัว ในช่วงที่เกิดสงครามการค้ากับสหรัฐ เพราะปัญหาอาจเศรษฐกิจอาจสั่นคลอนความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
“หากผู้นำระดับสูง (ของจีน) เห็นว่าความมั่นคงภายในกลายเป็นปัญหาร้ายแรง หรือการชะลอตัวทางเศรษฐกิจกลายเป็นปัญหาร้ายแรง นั่นคือสถานการณ์ที่เราต้องระวังให้มาก” วู กล่าว "เราต้องเตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น ... นั่นคือความขัดแย้งทางทหาร"
แม้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะยังคงเติบโต แต่ก็คาดว่าจะชะลอตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในปีนี้ซึ่งเป็นการตอกย้ำความท้าทายที่หนักหน่วงสำหรับรัฐบาลจีนในการเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรักษาอัตราการเติบโตเพื่อรักษาความชอบธรรมทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์
วู กล่าวว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศจีนนั้น "ถือว่าโอเค" ในขณะนี้ แต่เขาเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ คอยจับตาปัจจัยที่อาจปัญหาเช่นการว่างงานและความไม่พอใจของประชาชนในวงกว้าง
“ไม่แน่ว่าสีจิ้นผิงเองก็อาจถูกตั้งคำถามเรื่องความชอบธรรม หสกไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตได้” วู กล่าวถึงประธานาธิบดีจีน "นี่เป็นปัจจัยที่อาจทำให้ผู้นำจีนตัดสินใจดำเนินการนอกประเทศ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจในประเทศ"
วู ยังกล่าวว่า ท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นในทางการทหารของจีนในภูมิภาค ได้กลายเป็นสาเหตุความตึงเครียด ซึ่งมีผลกระทบต่อหลายประเทศ และเขาย้ำว่าไต้หวันพยายามเท่าที่จะทำได้เพื่อรักษาสันติภาพระหว่างแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน
“เราหวังอย่างยิ่งว่าไต้หวันและจีนจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข แต่เราก็เห็นว่ามีปัญหาที่เกิดจากจีน และเราจะพยายามจัดการกับมัน”
Photo by Nicolas ASFOURI / AFP