แม้จะประสบความสำเร็จในก้าวแรกแล้ว แต่หนุ่มอียิปต์วัย 25 ปี ก็ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เ

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทุกวันนี้ มีส่วนทำให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้คนเปลี่ยนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์กันเป็นว่าเล่น เพียงเพราะอยากได้เครื่องใหม่ที่มีการอัพเกรดฟีเจอร์ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งที่รุ่นเก่ายังใช้งานได้ดี

ขณะที่ขยะเหล่านี้เพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่ทางการในหลายประเทศยังขาดการจัดการที่ดีหรือไม่ให้ความสนใจกับขยะอันตรายนี้เลย เช่นในประเทศอียิปต์ จนนักศึกษาวิศวกรคนหนึ่งเห็นคุณค่าของขยะอิเล็กทรอนิกส์และเปลี่ยนสิ่งไร้ค่าให้กลายเป็นเงินตั้งแต่ยังไม่สำเร็จการศึกษาด้วยซ้ำ

นักศึกษาคนนั้นคือ มอสตาฟา เฮมแดน ผู้ก่อตั้ง บริษัท รีไซโคลเบเกีย (Recyclobekia) รับกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์แห่งแรกในอียิปต์และเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในภูมิภาคตะวันออกกลาง

เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เฮมแดน ได้แรงบันดาลใจในการเริ่มธุรกิจหลังจากดูคลิปเกี่ยวกับการรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยการสกัดโลหะผสมออกจากแผงจงวรที่มีทั้งเงิน ทอง ทองแดง จากนั้น Recyclobekia จึงเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา โดยมีโรงรถหลังบ้านเป็นโรงงานแห่งแรก

เฮมแดน เข้าร่วมการแข่งขันผู้ประกอบการซึ่งจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการสตาร์ทอัพของคนรุ่นใหม่ และคว้ารางวัลที่ 1 ได้เงินทุนก้อนแรก 10,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 360,000 บาท) มาสานฝันโรงงานรีไซเคิล ซึ่งขณะนั้นเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตในยุโรปและสหรัฐ แต่ในอียิปต์กลับยังไม่มีใครให้ความสนใจ

ชื่อของบริษัทมีที่มาจากภาษาถิ่นอียิปต์ว่า ราบา บัคยา หมายถึง ของเก่า ซึ่งเป็นคำที่คนยากคนจนในกรุงไคโรใช้พูดเพื่อขอบริจาคของที่ไม่ใช้แล้ว ตรงกับแนวคิดของบริษัทที่จะนำของไม่ใช้แล้วมารีไซเคิล

เฮมแดน โปรโมท Recyclobekia ในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง อาลีบาบา ไม่นานลูกค้ารายแรกในฮ่องกงก็สั่งฮาร์ดดิสก์จากบริษัทของเขา 10 ตัน เจ้าตัวเผยว่า รับออร์เดอร์แรกทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะหาของจำนวนมหาศาลนี้ได้จากไหนบ้าง แต่สถานที่แรกที่เขาคิดถึงคือบรรดาบริษัทห้างร้านในกรุงไคโร ที่ใช้คอมพิวเตอร์และพรินเตอร์ในวงกว้าง

เขายังต้องการเงินอีก 15,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อรวบรวมฮาร์ดดิสก์ให้ครบตามออร์เดอร์ เฮมแดน จึงขอยืมเงินจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัย โดยเสนอแบ่งกำไรจากการขายครั้งแรกให้ 40% ในอีก 4 เดือนต่อมาการจัดส่งสินค้าก็เสร็จสมบูรณ์

แม้จะประสบความสำเร็จในก้าวแรกแล้ว แต่หนุ่มอียิปต์วัย 25 ปี ก็ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เขาเดินทางไปศึกษาดูงานในบริษัทรีไซเคิลที่จีนและกลับมาปรับปรุงโมเดลธุรกิจของตัวเองใหม่ โดยการลดคนกลางในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการแยกชิ้นส่วนเอง จากนั้นจึงส่งไปให้บริษัทในเยอรมนีแยกโลหะแต่ละชนิด ทั้งยังช่วยประหยัดค่าขนส่งจากเดิมที่ต้องส่งไปแยกที่ฮ่องกง

ขณะที่ Recyclobekia กำลังเดินหน้าอยู่นั้น เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของอียิปต์เมื่อกองทัพโค่นล้มอำนาจ ประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มูร์ซี ส่งผลให้นายทุนจากเยอรมนีที่กำลังจะร่วมลงทุนด้วยถอนตัวทันที จนบริษัทจวนเจียนจะล้มละลาย แต่สุดท้าย เฮมแดน ก็กู้สถานการณ์กลับมาได้ด้วยการหาแหล่งเงินทุนจากสหรัฐแทน

บทเรียนหนึ่งที่ เฮมแดน ได้จากวิกฤตครั้งนี้คือ แม้ตัวเขาจะทำผิดหลายครั้งไม่ต่างจากที่เจ้าของกิจการหน้าใหม่เคยทำผิด แต่เขาไม่ได้ล้มเหลว เขาเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้น