WORLD NEWS

โดย M2F Writer

18 มกราคม 2562 : 12:00 น.

วิเคราะห์สถานการณ์น่าจับตาในอนาคต

ขณะที่ความสนใจและความวิตกกังวลของมนุษยชาติต่อความเป็นไปของโลกใบนี้พากันพุ่งไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ ที่บาดหมางกันเพราะการพัฒนาและทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ตั้งแต่ปี 2017 แล้ว ที่เอลอน มัสค์ ผู้ก่อตั้งและบริหารบริษัทด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย แสดงความเห็นอย่างหนักแน่นว่า ความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ต่างหากที่เป็นวาระเร่งด่วนที่ชาวโลกควรต้องจับตาให้ดี

ครั้งนั้น มัสค์ทวีตในทวิตเตอร์ส่วนตัว @elonmusk โดยแชร์รายงานข่าวที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้กล่าวกับนักเรียนในงานโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุง มอสโก เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. 2017 ว่า “สมองกล หรือ Artificial Intelligence (AI) เป็นอนาคตของมนุษยชาติ ไม่ใช่แค่เฉพาะกับรัสเซียเท่านั้น มันมีทั้งโอกาสมากมาย แต่ก็มีอันตรายที่มองไม่เห็นในเวลานี้เช่นกัน” พร้อมกับกล่าวว่า “ใครก็ตามที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ ก็เท่ากับจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลกด้วย” ซึ่งเป็นวาทะที่เผยแพร่ต่ออย่างอื้ออึงไปทั่วโลก และโดนใจมัสค์ที่มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ดี สำหรับผู้บริหารองค์กรขนส่งทางอวกาศ และยานพาหนะไฟฟ้า กังวลและมองแง่ที่มืดมนว่า ปัญญาประดิษฐ์เป็นภัยมากกว่าโอกาส และพยากรณ์แนวโน้มการแข่งขันพัฒนาศักยภาพของสมองกลในระดับชาติว่า จะสร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรง ถึงขั้นนำไปสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ แม้ในปัจจุบันประเทศที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะจะมีแค่ไม่กี่ประเทศ แต่มัสค์มองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นอุปสรรคเลย รัฐบาลประเทศใดประเทศหนึ่งที่อยากใช้ AI มาดันให้ตัวเองเป็นมหาอำนาจของโลก ก็เพียงแค่ใช้กำลังอำนาจของตัวเองก็สามารถบีบบังคับให้สิ่งนั้นมาอยู่ในมือได้

นับตั้งแต่ปี 2014 มัสค์เริ่มแสดงความกังวลต่ออนาคตของการพัฒนา AI อย่างชัดเจนในที่ประชุมด้านเทคโนโลยี จนมาถึงระยะหลังที่เริ่มแสดงความเห็นในวงกว้าง อาทิ การร่วมลงชื่อต่อต้านการสร้างปัญญาประดิษฐ์เป็นอาวุธ ร่วมกับบริษัทด้านนวัตกรรมทั่วโลก จนถึงขั้นขัดแย้งกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและบริหารเว็บสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ค ว่าเขาไม่มีความรู้ด้าน AI เพียงพอ จากการที่วิจารณ์การวิตกกังวลของมัสค์เชิงเกินกว่าเหตุ ทั้งที่ทางเฟซบุ๊คก็เพิ่งมีรายงานเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2017 ว่า ได้ทำการปิดระบบปัญญาประดิษฐ์ของตัวเองไป เนื่องจากพบว่ามันพัฒนาภาษาสื่อสารกันเองในระบบ ซึ่งสะท้อนว่าผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์ไม่มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความฉลาดนอกจากน้ำมือมนุษย์ จึงต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการเผยความกังวลในวาระต่างๆ เวลานี้มัสค์ได้ก่อตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมา 2 องค์กร ได้แก่ OpenAI เพื่อวิจัยนวัตกรรม AI และ Neutralink สตาร์ทอัพพัฒนาอุปกรณ์เพื่อเชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์ โดยยืนยันว่าเจตนารมณ์ของการดำเนินงานโดยองค์กรเหล่านี้เพื่อพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในทางที่ถูกต้อง หรือไม่เป็นภัยต่อมนุษย์ในวันข้างหน้าอย่างที่ตั้งใจ และคาดหวังให้เกิดขึ้นในแวดวงวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ 

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ