หมดกังวลคนชอบอ้างว่าใส่ถุงยางแล้วไม่เร้าใจ

ทีมนักวิจัยจาก ม.บอสตัน คิดค้นถุงยางอนามัยที่สามารถปล่อยสารหล่อลื่นได้เองเมื่อได้รับการสัมผัสกับสารคัดหลั่งในร่างกาย ที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งแตกต่างกับถุงยางอนามัยที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป แม้ว่าจะมีสารหล่อลื่นเพียงพอ แต่บางครั้งก็ไม่นุ่มสบาย และยิ่งถูกแรงขับยาวนานเท่าไร ถุงยางเหล่านั้นก็จะยิ่งแห้ง ทำให้เกิดความไม่สบาย ขัดจังหวะการปั่มปั๊ม โดยถุงยางอนามัยที่ถูกคิดค้นขึ้นมานี้

นอกจากสามารถปล่อยสารหล่อลื่นเองได้แล้ว ยังมีเคลือบผิวที่ทนทานต่อแรงขับและไม่สูญเสียสัมผัสที่ลื่นไหลระหว่างมีกิจกรรม ช่วยทำให้การมีเพศสัมพันธ์ของหนุ่มสาวมีความสุขมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากนี้จะมีการทดลองกับคู่รักในต้นปีหน้า และวางแผนพัฒนาเพื่อวางขายในท้องตลาดต่อไปอีกด้วย

ทั้งนี้ ถุงยางอนามัย เป็นประดิษฐกรรมที่มีวิวัฒนาการมาโดยตลอด และอยู่คู่กับมนุษย์มานับพันๆ ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ส่วนในประเทศจีน ถุงยางอนามัยผลิตจากไหม กระดาษ หรือลำไส้ลูกแกะ ส่วนในญี่ปุ่นจะผลิตจากกระดองเต่า จากนั้นก็มีวิวัฒนาการมาโดยตลอด จากถุงยางที่ทำขยางลำใส้ของสัตว์ มาเป็นยาง และล่าสุดคือยางที่ปล่อยของเหลวเพื่อความลื่นไหล

นอกจากจะช่วยคุมกำเนิด ป้องกันโรคติดต่อทางเพศ ถุงยางอนามัยยังอาจส่งผลดีในการรักษาการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่มะเร็งปากมดลูก การสัมผัสกับฮิวแมนแพปพิลโลมาไวรัส (HPV) ดูเหมือนจะเพิ่มโอกาสที่จะเกดปัจจัยที่ทำห้เกิดมะเร็ง แม้ในหมู่ผู้มีเชื้อ HPV ในร่างกาย การใช้ถุงยางอนามัยช่วยลดการปัจจัยเหล่านั้น

นอกจากนี้ นักวิจัยในสหราชอาณาจักรยังเสนอว่าฮอร์โมนในน้ำอสุจิสามารถทำให้มะเร็งปากมดลูกมีอาการแย่ลง ดังนั้นการใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์สามารถป้องกันการสัมผัสกับฮอร์โมน