สสส.ประกาศผลรางวัลแอปพลิเคชันคัดกรองภาวะซึมเศร้าสำหรับวัยรุ่น โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพฯ คว้ารางวัลชนะเลิศระดับมัธยม
เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุภาพ (สสส.) กล่าวในพิธีประกาศผลและมอบรางวัล Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation จัดโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิวายไอวาย และภาคีเครือข่ายผ่านทางการจัดงานในรูปแบบออนไลน์ว่า รู้สึกภูมิใจกับผลงานของเยาวชนทุกทีม ทุกผลงานเกิดมาจากความทุ่มเทและความพยายามของนักเรียน นักศึกษา ที่ร่วมกันคิด ริเริ่มอย่างสร้างสรรค์จนออกมาเป็นผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ โดย สสส. ได้ทำหน้าที่ในการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อสร้างนักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ เป็นจุดเริ่มที่ดีเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ โดยเริ่มจากตัวเอง ชุมชน และสังคมรอบข้าง ควรที่จะได้รับการพัฒนาต่อยอดนำไปใช้แก้ปัญหาสุขภาวะในระดับประเทศต่อไป
รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. กล่าวว่า นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพโดยฝีมือเยาวชนทั้ง 20 ทีม จาก 362 ทีม ในปีนี้ ได้ผ่านอุปสรรค ความยากลำบาก เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ก็ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์อันมีคุณค่าในค่ายพัฒนาศักยภาพเพื่อพัฒนานวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งทุกคนสามารถเอาชนะมาได้ ทุกผลงานได้ผ่านกระบวนการพัฒนา ทดสอบ ทดลองอย่างเข้มข้น การที่ สสส. จัดประกวดฯ ครั้งนี้ จึงช่วยติดอาวุธให้เยาวชนรุ่นใหม่ รวมทั้งครู อาจารย์ได้เข้าใจและเกิดความตระหนักเรื่องการ “สร้าง” นำ “ซ่อม” สุขภาพ เห็นถึงสถานการณ์มิติสุขภาพที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับอีกหลายมิติมากกว่าการเจ็บป่วยและรักษา แต่เป็นการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรค ผนวกกับการใช้พลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ในการคิดสร้างสรรค์วิธีแก้ไขหรือป้องกันปัญหา นับเป็นการสร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคต ทั้งของตัวเยาวชนเองและสังคมได้อย่างดี เชื่อว่านักเรียน นักศึกษา และครู อาจารย์ที่ได้ผ่านกระบวนการนี้จะมีความเป็น active citizen และเป็นความหวังของพวกเราทุกคนในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพต่อไป
ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สสส. มุ่งสร้างเสริมสุขภาพ โดยแก้ไขต้นเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของคนไทย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพของคนไทยให้มีสุขภาวะที่ดีขึ้น เห็นผลที่ต่างไปจากเดิม จำเป็นต้องใช้ “นวัตกรรม” ในการทำงาน ดังนั้นคำว่า “นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ” ในมุมมองของ สสส. เป็นได้ทั้งแนวคิดหรือสิ่งประดิษฐ์ที่มุ่งสร้างเสริมสุขภาพทั้ง 4 มิติ คือ สุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ สุขภาพทางสังคม และสุขภาพทางปัญญา ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพของคนไทยอย่างยั่งยืน สำหรับโครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เป็นเสมือนกระจกที่สะท้อนวิธีการทำงานของ สสส. โดยเยาวชนจะต้องรู้จักสำรวจปัญหาหรือความต้องการของสังคม เพื่อนำไปสู่การออกแบบนวัตกรรมที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้กับสังคม อีกทั้งโครงการนี้ยังเกิดการสานพลังจากหลายภาคส่วน ในการร่วมกันออกแบบกระบวนการพัฒนาทักษะด้านการสร้างเสริมสุขภาพให้กับเยาวชน โดยสสส.พร้อมที่จะขยายต่อสานความร่วมมือจากภาคีภาครัฐและเอกชนมาร่วมสนับสนุนต่อยอดและขยายผลงานนวัตกรรมต่อไป
สำหรับโจทย์การประกวดในปีนี้ ได้นำประเด็นเป้าหมายหลัก 10 ปีของ สสส. ได้แก่ 1.ลด ละ เลิก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ 3.ลดอุบัติเหตุและสร้างเสริมความปลอดภัยทางถนน 4.เพิ่มการบริโภคผักผลไม้ และอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ 5.เพิ่มกิจกรรมทางกาย หรือ ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง 6.สร้างเสริมความเข้าใจสุขภาวะทางเพศ 7.การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ 8.สร้างเสริมสุขภาพจิต/การจัดการอารมณ์และความเครียด
ดร.สุปรีดา กล่าวว่า ในปีนี้รางวัลนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2021 รางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ ทีม Crying Cloud จากโรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ (International School of Bangkok :ISB) ผลงาน Connecting Depression Therapy แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคัดกรองภาวะซึมเศร้าสำหรับวัยรุ่น รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ทีม BCC-Robot จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ผลงาน PakYim Game แอปพลิเคชันเพื่อการวางแผนรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและให้ความรู้ทางโภชนาการผ่านการเล่นเกม รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ทีมเชื้อเพลิงอัจฉริยะ จากโรงเรียนศึกษานารี ผลงานเครื่องฆ่าเชื้อและย่อยสลายหน้ากากอนามัยเพื่อเป็นขยะเชื้อเพลิง และรางวัลความคิดสร้างสรรค์ ทีม NGGYU จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ผลงานระบบตรวจจับการขับมอเตอร์ไซค์ย้อนศรจากภาพกล้องวงจรปิด และส่งข้อมูลแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผ่านแอปพลิเคชัน Line รางวัลชนะเลิศระดับอาชีวศึกษา ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ ทีม NWM..Safety Roads 3 Plus จากวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชูทิศ กรุงเทพฯ ผลงานเครื่องฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัย
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ทีม Safe Zone จาก วิทยาลัยเทคนิคพังงา จ.พังงา ผลงาน “Safe Zone” แอปพลิเคชันการจัดการความเครียด รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ทีม Born to be จาก วิทยาลัยเทคโนโลยี โปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ผลงานเก้าอี้ถังนุ่มนิ่ม เพื่อเสริมสร้างกิจกรรมทางกาย และลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และรางวัลความคิดสร้างสรรค์ ทีมไข่เค็ม จากวิทยาลัยการอาชีพไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ผลงานสัญญาณไฟเตือนขณะกลับรถ สัญญาณแจ้งเตือนด้วยระบบไฟฟ้าและป้ายข้อความให้แก่ผู้ขับขี่ในจุดกลับรถ โดยใช้เซนเซอร์ตรวจจับความเร็วของพาหนะ โดยรวมรางวัลมูลค่ากว่า 200,000 บาท พร้อมโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaihealth.or.th/inno หรือ www.facebook.com/pmhealthpromotioninnoaward