รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯยันคราบน้ำมันหาดแม่รำพึงขจัดหมดแล้ว พร้อมเร่งสกัดคราบน้ำมันที่จะเคลื่อนตัวเข้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายบริษัทน้ำมันแล้ว พร้อมขอให้งดจับสัตว์น้ำ 1 เดือน
เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า การขจัดคราบน้ำมันดิบที่รั่วไหล เข้าสู่หาดแม่รำพึงขณะนี้เสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจากกระแสลมพัดพาคราบน้ำมันที่เป็นแผ่นฟิล์มบางๆ ไปทางทิศตะวันออก ทำให้หาดแม่รำพึงปลอดภัย ขณะที่กลุ่มคราบน้ำมันที่คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด มีการวางแนวป้องกันเพื่อไม่ให้คราบน้ำมันขึ้นชายฝั่ง ขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้งดจับสัตว์น้ำประมาณ 1 เดือน รวมถึงการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ในส่วนความเสียหายด้านทรัพยากรทางทะเลต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทางบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ขอให้จังหวัดเพิ่มความเข้มงวดตรวจตราโรงงานในพื้นที่ ผู้ประกอบการต้องหมั่นตรวจตราอุปกรณ์เครื่องมือ ทั้งที่อยู่บนบกและในทะเลเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ในส่วนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จะตรวจสอบและเฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อทรัพยากรทางทะเล ส่วนกรมควบคุมมลพิษจะติดตามตรวจสอบและรายงานผลคุณภาพน้ำทะเล จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
ขณะที่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (มหาชน) หรือ GISTDA รายงานการวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพดาวเทียมไทยโชต ซึ่งบันทึกภาพวันนี้ (30 ม.ค) เวลา 10.16 น. โดยวิเคราะห์ทั้งระบบในช่วงคลื่นที่สายตามองเห็น (visible band) กับช่วงคลื่นอินฟราเรดซึ่งไม่พบคราบน้ำมันบริเวณหาดแม่รำพึง รวมถึงพื้นที่เฝ้าระวังในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด แต่ GISTDA จะใช้ข้อมูลในระบบเรดาร์ คือ ดาวเทียม RADARSAT-2 ซึ่งบันทึกภาพในเวลา 18.40 น. เย็นวันนี้ เพื่อตรวจสอบคราบฟิล์มน้ำมันอีกครั้ง เนื่องจากระบบดาวเทียม RADARSAT-2 สามารถตรวจสอบบริเวณที่มีการปนเปื้อนจากคราบน้ำมัน ซึ่งสายตาไม่สามารถมองเห็นได้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ากำจัดคราบน้ำมันในทะเลหมดแล้ว