นายกฯเปิดงานวันครูส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ ย้ำรัฐบาลจะพัฒนาการศึกษาของชาติแบบองค์รวม เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดงานวันครู ครั้งที่ 66 ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “พลังครูยุคใหม่ สร้างคุณภาพคนไทยสู่สากล” ในรูปแบบผสมผสาน คือ ออนไซต์แบบนิวนอร์มอลและออนไลน์ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันครู รวมถึงพิธีคารวะครูอาวุโสของนายกรัฐมนตรี และมอบสารเนื่องในโอกาสวันครู และพิธีคารวะครูอาวุโสของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ในรูปแบบออนไลน์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
สำหรับ กิจกรรมงานวันครูเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า โดย น.ส.ตรีนุช ได้มาเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร พิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่ครูผู้วายชนม์ ร่วมกับนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ที่สนามหญ้าหน้าสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และพิธีบูชาบูรพาจารย์และระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ที่หอประชุมคุรุสภา โดยนายสุภัทร จำปาทอง ปลัดศธ. อ่านโองการอัญเชิญบูรพาจารย์ นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ ครูอาวุโสนอกประจำการ กล่าวนำสวดฉันท์ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และ นางพวงผกา แวงเงิน ครูอาวุโสในประจำการ นำกล่าวคำปฏิญาณตนของครูและ บุคลากรทางการศึกษา
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ มอบสารเนื่องในโอกาสวันครู ตอนหนึ่งว่า เนื่องในโอกาสวันครู วันที่ 16 มกราคม 2565 ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ผมขอน้อมมุทิตาจิตและแสดงกตเวทิตาคุณแด่ครูผู้การุณย์แก่ศิษย์เสมอมา พร้อมทั้งขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านทั่วประเทศ ครูเป็นผู้จุดประกายความคิด อบรมสั่งสอนวิชาความรู้ เพื่อให้ศิษย์เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ คุณธรรม และมีจิตสาธารณะ รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อสังคม รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาขับเคลื่อนโดยภูมิปัญญาและนวัตกรรมตามเผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี เฉพาะการพัฒนาการศึกษาของชาติแบบองค์รวม เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 ที่มุ่งเน้นการสร้างครูยุคใหม่และผู้เรียนที่ใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต รวมทั้งพัฒนาในด้านต่าง ๆเพื่อให้มีความพร้อมในการดำเนินชีวิตในโลกยุควิถีใหม่
“ปี พ.ศ. 2565 นี้ ผมขอมอบคำขวัญ “วันครู” ครั้งที่ 66 ว่า “พัฒนาครู พัฒนาเด็ก เรียนรู้สู่อนาคต” ด้วยตระหนักถึงการพัฒนาครู ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาการศึกษาของชาติให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะที่เหมาะสมสอดคล้องกับรูปแบบการเรียนการสอนในยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สามารถถ่ายทอดให้ศิษย์มีความรู้และทักษะที่จำเป็น เกิดการเรียนรู้ คิดริเริ่ม สร้างสรรค์ พัฒนาสิ่งใหม่ ผมขอเป็นกำลังใจให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านที่มุ่งมั่น ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ในการทำหน้าที่อำนวยความรู้แก่ศิษย์ เพื่อให้ศิษย์เติบโตเป็นอนาคตของชาติที่มีคุณภาพ คุณธรรม และเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและประเทศชาติต่อไป ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรีได้อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกคนนับถือ ตลอดจนเดชะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี โปรดอภิบาลประทานพรให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนประสบแด่ความสุข สวัสดี มีความเจริญ มีพลังกาย พลังใจที่เข้มแข็ง มีความก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ และสัมฤทธิผลในสิ่งที่พึงปรารถนาทุกประการโดยทั่วกัน
สำหรับในปีนี้ ครูนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ครูผู้สอนวิชากลศาสตร์ (Machanic) วิศวกรรมเครื่องกล ชั้นปีที่ 4 พ.ศ. 2517 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) โดย พล.อบุญสร้าง กล่าวว่า ขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่ลืมวันเวลาร่วมกันในรั้ว จปร. ในปี 2517 พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักเรียนชั้นปีที่ 4 และเป็นการสอนปีที่ 2 ในชีวิตการสอนของตน ตนสอนวิชากลศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาของวิศวกรรมเครื่องกล พล.อ.ประยุทธ์เรียนกับตน 1 ปี นักเรียนนายร้อยประยุทธ์ เป็นลูกศิษย์ที่ตั้งอกตั้งใจเรียน มีความสนใจในวิชาการ มีสมาธิที่ดี เรียบร้อย และเป็นผู้ที่มีความอดทน
“ความทรงจำเกี่ยวกับนักเรียนนายร้อยแทบจะเหมือนกันหมด เพราะทุกคนทำอะไรเหมือนกันหมด ถ้าจะจำได้ก็เป็นนักเรียนที่มีความเรียบร้อยเป็นพิเศษหรือบางคนอาจจะเกเรนิดหน่อย ผมจำพล.อ.ประยุทธ์ได้ และเชื่อว่าอดีตผู้บังคับบัญชา และครูบาอาจารย์ของท่าน ก็จะรู้สึกเหมือนๆกัน คือภูมิใจในลูกศิษย์คนนี้มาก เพราะพล.อ.ประยุทธ์เป็นลูกศิษย์ที่ดี ซึ่งเวลาผ่านมาเกือบ 50 ปีมาแล้ว ท่านจบมาก็เป็นทหาร ในที่สุดได้มาเป็นผู้นำกองทัพ และได้มาเป็นผู้นำประเทศ การเป็นครู เป็นอาชีพที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุดในโลก ไม่ว่าอยู่ตรงไหนหรืออยู่สังคมใด เพราะคือการสร้างคน ให้มีคุณสมบัติที่ดี คือ มีความซื่อสัตย์ สุจริต ขยันขันแข็ง เสียสละเพื่อส่วนร่วม มือความกล้าหาญ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ปลูกฝังให้อยู่ในจิตใต้สำนึกของลูกศิษย์ให้ได้ ถ้าทำได้ ถ้าทุกคนในชาติมี บ้านเมืองจะไม่ตกต่ำ หากมีภัยพิบัติอะไรมาจะช่วยแก้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พล.อบุญสร้าง กล่าว
ขณะที่ น.ส.ตรีนุช มอบสารเนื่องในโอกาสวันครู ตอนหนึ่งว่า ตนขอส่งความรักและความปรารถาดีมายังเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาการศึกษาของชาติด้วยดีเสมอมา ประเทศใดประ เทศหนึ่งจะมั่นคงและตั้งอยู่ได้ ก็ด้วย การมีทรัพยากรที่จำเป็นอย่างบริบูรณ์ ในบรรดาทรัพยากรที่แต่ละประเทศมีอยู่นั้น “คน” คือทรัพยากรที่มีชีวิต แลเป็นทรัพยากรทรงคุณค่าที่มีส่วนสำคัญต่อการกำหนดความเป็นไปของประเทศ ทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ เป็นผลพวงจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ และเป็นความยิ่งใหญ่ที่อาจเทียบได้กับ “ผู้ประกอบวิชาชีพครู” ซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์ชีวิตของเด็กและเยาวชน ให้เติบโตเป็นคนที่สมบูรณ์ พร้อมที่จะขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้ต่อไป
“ศธ. ในฐานะองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาครูให้เป็นครูมืออาชีพได้ยึดมั่นในการ “พัฒนาครู พัฒนาเด็ก เรียนรู้ สู่อนาคต ” ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี ได้มีคำขวัญเนื่องในโอกาสวันครู ครั้งที่ 66 มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินนโยบายในการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูให้เป็นผู้ที่มีสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ และเน้นให้ความสำคัญด้านภาษาและดิจิทัล เพื่อครูสามารถปรับวิธีการเรียนการสอนและการใช้สื่อทันสมัยได้อย่างมืออาชีพ และมีความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ทางการศึกษาที่เกิดกับผู้เรียนอย่างจริงจัง โดยศธ.ได้ดำเนินการร่วมกับคุรุสภาและหน่วยงานอื่น ๆในการคัดเลือกครูผู้มีผลงานดีเด่นให้เข้ารับรางวัลต่าง ๆ ระดับประเทศทุกปี เพื่อเป็นการยกย่องสรรเสริญครูผู้เป็นแบบอย่างในระบบการศึกษายุคใหม่” น.ส.ตรีนุช กล่าว
น.ส.ตรีนุช กล่าวมุทิตาจิตต่อ ครูนงลักษณ์ ภมรจันทรมัส ครูชั้นเด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาลศรีวัฒนาวิทยา อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ตอนหนึ่งว่า 40 กว่าปีมาแล้ว ที่โรงเรียนอนุบาลศรีวัฒนาวิทยา มีสองมือที่คอยประคองให้ดิฉันหัดเขียนหัดอ่าน ก ไก่ เป็นครั้งแรก และเป็นสองมือที่เต็มไปด้วยความรัก ความเมตตา และความอบอุ่นในทุกครั้งที่ได้เจอ “ครูนงลักษณ์”ครูสอนวิชาคัดลายมือของตน เป็นครูที่เป็นมากกว่า ผู้ให้กำเนิดชื่อ แต่เป็นครูที่มอบชีวิต และสร้างตัวตนให้เป็น ‘ตรีนุช’ มาจนทุกวันนี้ ตนเป็น บุตรสาวคนที่สาม จากบรรดาพี่น้องทั้งหมดสี่คน ในวัยเด็ก ได้มีโอกาสฟังคำสอน จับใจดิฉันอยู่เสมอว่า หนึ่งชีวิตของคนเรานั้น มีการเกิดได้อยู่ 2 หน โดยการเกิดหนที่หนึ่งนั้น คือ การเกิดของเลือดเนื้อและชีวิตที่เราได้รับจากคุณพ่อคุณแม่ ส่วนการเกิดในครั้งที่สองนั้น คือการเกิดทางปัญญา ซึ่งเราจะได้รับจากคุณครู ผู้ทำหน้าที่เสมือนพ่อแม่บังเกิดเกล้า คอยเลี้ยงดูขัดเกลาลูกศิษย์ทุกคน ดุจดั่งลูกแท้ๆ ของตัวเอง
น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า จากการที่คนคนหนึ่งจะมีชีวิตความเป็นอยู่ หรือตัวตนอย่างไรนั้น นอกเหนือจากการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนของพ่อแม่แล้ว ครู คือหนึ่งในผู้ที่ต้องเกี่ยวข้องกับชีวิต และการสร้างตัวตนของคนคนหนึ่งมากที่สุด สำหรับเด็ก ๆ บางคนแล้ว ครูยังอาจต้องเป็น พ่อแม่คนที่สอง เพื่อช่วยเติมเต็ม และเป็นความสมบูรณ์ให้แก่เด็ก ๆ ในยามที่พวกเขารู้สึกเปราะบาง เรียกว่าครู เป็นมากกว่าอาชีพ แต่เป็นจิตวิญญาณ ที่ไม่อาจมีอาชีพใดมาทดแทนได้ ในวันนี้ คุณครูของเรา มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่อย่างไร และยังมีความสุข ความภาคภูมิใจ กับการทำหน้าที่ แม่พิมพ์ของชาติอยู่หรือไม่? เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่เราทุกคนต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก จากสถานการณ์ของโรคระบาดร้ายและมีหลายสิ่ง ที่ได้เข้ามาซ้ำเติมความบอบช้ำ จากการทำหน้าที่ของครูไม่มากก็น้อย
“ท่ามกลางวิกฤตในครั้งนี้ เราได้เห็นความพยายามและการต่อสู้ของครู เพื่อเอาชนะอุปสรรค และข้อจำกัดต่าง ๆ ที่คอยขวางกั้นโอกาสในการเรียนรู้ของลูกศิษย์ เราได้เห็นรูปแบบ และเทคนิควิธีการสอนใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมากมาย ที่ทำให้ลูกศิษย์ของเรามีความสุข และสนุกไปกับการเรียนรู้และเรายังได้เห็นนวัตกรรมการเรียนรู้ ที่เปลี่ยนครูจากการเป็นผู้สอน มาเป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ ที่คอยจุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ไปตลอดชีวิต” น.ส.ตรีนุช กล่าว
ด้าน ครูนงลักษณ์ กล่าวว่า ตนสอน น.ส.ตรีนุช ในระดับชั้นเด็กเล็ก สอนวิชาความเตรียมพร้อมด้านการเขียน การอ่าน เพื่อเตรียมพร้อมเรียนต่อ ป.1 น.ส.ตรีนุช ตอนเด็กๆ จะเป็นคนเรียบร้อย น่ารัก ยิ้มแย้ม ปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆ ได้ดี แต่จะเป็นครพูดน้อย ตั้งใจเรียนสนใจอ่านเขียนตามที่ครูบอก ไม่เข้าใจก็จะถาม เป็นคนฉลาดมีไหวพริบดี ตนได้ติดตามข่าวสารของลูกศิษย์คนนี้มาตลอดเวลา รู้สึกดีใจ ภูมิใจที่ลูกศิษย์คนนี้ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ซึ่งนับเป็นกระทรวงที่สำคัญ กระทรวงหนึ่ง ตนมั่นใจว่า น.ส.ตรีนุช สามารถที่จะใช้ความรู้ ความสามารถมาพัฒนาการศึกษาให้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองได้
“ครูรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ครู ได้สอนและวางรากฐานให้กับเด็กๆ ด้วยความรัก ความผูกพันและอดทนมานานถึง 36 ปี ยิ่งเห็นเด็กเจริญเติบโตและก้าวหน้าในอาชีพการงาน ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นครู ทั้งนี้ยังมีสิ่งที่ประทับใจใน น.ส.ตรีนุช คือ เป็นคนที่เสมอต้นเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน น.ส.ตรีนุช จะไม่ลืมเข้ามาทักทายตลอด และในฐานะที่เป็นครูรุ่นพี่ อยากจะฝากน้องๆต้องจัดการสอนวิชาการแล้ว ต้องเน้นเรื่องคุณธรรม จริยธรรมให้มากขึ้น เด็กจะได้มีคุณธรรม จริยธรรมในหัวใจ และจะเป็นคนดีของสังคม อยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข” ครูนงลักษณ์ กล่าว