กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เปิดผลตรวจสายพันธุ์โควิดเจอติดโอมิครอนแล้ว 5,397 คนแล้วกระจายตัวใน 71 จังหวัด ขณะที่การสุ่มตรวจช่วงวันที่ 2-8 ม.ค. พบสัดส่วนโอมิครอนถึง 70.3%
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า สัดส่วนการตรวจ ATK รายวันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 9 ม.ค. มีการตรวจทั้งหมด 52,329 คน พบผลเป็นบวก 1,262 คน หรือคิดเป็น 1.23% ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ช่วงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ มีรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่า ขณะนี้ผลจากการสุ่มตรวจการกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ โอมิครอน พบแล้ว 5,397 คน กระจายไป 71 จังหวัด โดยตั้งแต่เดือน พ.ย.2564 จนถึงวันที่ 9 ม.ค.2565 พบว่ามีสัดส่วนเป็นเชื้อเดลตา 64.71% เป็นโอมิครอน 35.17% ส่วนที่เหลือจะเป็นสายพันธุ์เบตากับสายพันธุ์อัลฟา หากพิจารณาเป็นรายสัปดาห์ที่มีการสุ่มตรวจจำแนกเชื้อล่าสุด พบว่าในช่วงวันที่ 2-8 ม.ค.ที่ผ่านมา พบเป็นสัดส่วนโอมิครอน ถึง 70.3% และเป็นเดลตา 29.7% การแพร่กระจายของโอมิครอนเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์
อย่าไรก็ตาม ในวันนี้ (10 ม.ค.) มีรายงานพบผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 412 คน ในจำนวนนี้ 61% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบ Test and Go ส่วน 36% เป็นนักท่องเที่ยวจากระบบ Sandbox และอีก 3% เป็นกลุ่ม Quarantine จากการวิเคราะห์พบว่า แม้คนที่เดินทางเข้ามาจะมีจำนวนลดลง แต่สัดส่วนการติดเชื้อมีทิศทางแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนใหญ่พบการติดเชื้อเมื่อตรวจ PCR ในวันที่ 4-7 ซึ่งผู้ติดเชื้อ 412 คนนั้นเป็นชาวต่างชาติ 376 คน และเป็นคนไทย 25 คน กระจายอยู่ในจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว มากสุดที่ จ.ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี