10 องค์กรเปิดตัวเครือข่าย FFFE เพื่อรณรงค์ขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีผลในทางปฏิบัติ
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.รศ.ดร. อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะแกนนำเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง พร้อมตัวแทนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โครงการอินเตอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) สหพันธ์นักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยไทย กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ตัวแทนเครือข่ายแรงงาน และสมัชชาคนจน ร่วมแถลงเปิดตัวเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีผลในทางปฏิบัติ (Free, Fair & Fruitful Election) หรือ FFFE ณ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
รศ.ดร. อนุสรณ์ กล่าวว่า เครือข่ายนี้คือการรวมตัวของภาคประชาชนกว่า 10 องค์กร เพื่อรณรงค์ขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีผลในทางปฏิบัติ โดยจะมีกิจกรรมเป็นระยะตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ถึงการเลือกตั้ง เน้นการแสดงจุดยืนและรณรงค์เพื่อขจัดเงื่อนไขที่อาจทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นธรรมและไร้ความหมาย ผ่านแถลงการณ์ งานเสวนา กิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อการสื่อสาร เข้าชื่อรณรงค์ และสร้างพลังเครือข่ายภาคประชาชนที่จะมีส่วนในการจับตาสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62
สำหรับ ความพิเศษของเครือข่ายนี้อยู่ที่การทำงานประสานกับทุกภาคส่วน รวมถึงบรรดาพรรคการเมืองที่จะต้องรับพันธกิจจากประชาชนในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อการนำประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงหลังการเลือกตั้งด้วย ที่อาคารคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวถึงประเด็นสิทธิเสรีภาพกับการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ตั้งแต่การรัฐประหารเป็นต้นมา ประเทศไทยได้รับความสนใจจากประชาคมโลก ในฐานะที่เป็นประเทศที่ตกอยู่ใต้การปกครองโดยเผด็จการ นักการเมือง นักกิจกรรม นักวิชาการและประชาชนจำนวนมากที่แสดงออกต่อต้านรัฐบาลคสช. ถูกตั้งข้อหาปิดปากและมีการนำพลเรือนขึ้นศาลทหารกระทั่งทุกวันนี้ จึงเป็นเป็นห่วงว่าหากบรรยากาศเช่นนี้ดำเนินต่อไป การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นก็จะไร้ความหมาย และหากผลการเลือกตั้งจากบริบทเช่นนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ ประเทศจะเดินหน้าต่ออย่างไร
นายณรงค์ศักดิ์ เนียมสอน จาก iLaw กล่าวว่าการมีอยู่ของมาตรา 44 ที่ให้อำนาจหัวหน้าคสช.ออกคำสั่งใดๆก็ได้นั้น ถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่อาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เสรีและเป็นธรรม จากการติดตามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากประกาศและคำสั่งต่างๆ iLaw เห็นว่า อย่างน้อย 35 ฉบับ จะเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งที่เสรีเป็นธรรม เราจึงเสนอให้ยกเลิกได้แล้ว
ด้าน นางศรีไพร นนทรีย์ ตัวแทนภาคแรงงาน กล่าวถึงการที่พรรคการเมืองไม่สามารถสื่อสารกับประชาชนได้อย่างเสรีตลอด 4 ปีมานี้ ทำให้เกิดข้อกังวลว่า นโยบายที่จะนำมารณรงค์หาเสียงจะมาจากไหน และจะตอบสนองความต้องการของประชาชนได้หรือไม่ หากไม่รีบปลดล็อคการเมือง ก็เกรงว่านโยบายที่ได้มาจะไม่ตอบโจทย์ ส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้ขาดผลในทางปฏิบัติ ผิดเจตนารมณ์ของการเลือกตั้งเพื่อให้มีผู้แทนที่สามารถสะท้อนเสียงของประชาชน
อย่างไรก็ตาม เครือข่าย FFFE จะจัดกิจกรรมแรก “การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมกับอนาคตสังคมและการเมืองไทย” ในวันที่ 14 ต.ค. 61 ที่ห้อง LT1 คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เวลา 12.00-16.30 น. โดยภายในงานจะมีการประกาศจุดยืนผ่านแถลงการณ์ร่วมของภาคประชาชนและพรรคการเมือง และการเสวนา โดยแบ่งเป็นภาคประชาชนและพรรคการเมือง ซึ่งจะมีผู้แทนระดับแกนนำพรรคการเมืองที่ได้รับความสนใจถึงเจ็ดพรรคเป็นเบื้องต้นเข้าร่วมทั้งเวทีแถลงการณ์และการเสวนาด้วย